ดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 32.62/63 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (12/2) ที่ 31.72/74 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ วันนี้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงจากการที่นักลงทุนเทขายเงินสกุลเงินดอลลาร์ และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น หุ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดีดตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ซึ่งการปรับตัวขึ้นนี้ได้รับอานิสงส์จากแผนงบประมาณของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยวานนี้ เขาได้เปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 4.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรส โดยมีการเพิ่มรายจ่ายด้านกลาโหม และการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค ทั้งนี้ แผนงบประมาณดังกล่าว มีการจัดสรรงบประมาณวงเงิน 7.16 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการทหาร และการรักษาคลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐ ขณะที่มีการจัดสรรงบฯ 2 แสนล้านดอลลาร์ สำหรับการใช้จ่ายด้านโครงการสาธารณูปโภค และตั้งวงเงินมากกว่า 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ สำหรับการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน และการตรวจคนเข้าเมือง อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดดุลจากแผนงบประมาณฉบับนี้ได้เสนอให้มีการตัดงบประมาณในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายด้านกลาโหม ซึ่งจะช่วยลดการขาดดุลงบประมาณลงได้ 3 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 10 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังคงจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ประจำเดือนมกราคม ที่จะเปิดเผยโดยกระทรวงแรงงานสหรัฐ ในวันพุธนี้ (14/2) โดยผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทอาจเผชิญภาวะทรุดตัวอย่างหนักอีกครั้งในวันพุธนี้ (14/2) หากดัชนีราคาผู้บริโภค เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าที่คาดไว้

ในส่วนของประเทศไทย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการประชุมนโยบายทางการเงินในวันพรุ่งนี้ (14/2) ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับร้อยละ 1.50 ต่อไป อีกทั้งยังมีรายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมา ธปท.วิตกกัวบการแข็งค่าอย่างรวดเร็วของค่าเงินบาท โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า ธปท.พร้อมจะดำเนินการ ถ้าค่าเงินมีการเคลื่อนไหวเร็วเกินไปเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบที่อาจมีต่อธุรกิจต่าง ๆ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.47-31.63 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.49/50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (13/2) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.2290/93 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (12/2) ที่ 1.2265/66 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หลังจากเศรษฐกิจของยูโรโซนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1.2283-1.2337 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.2326/28 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

ส่วนค่าเงินเยนในวันนี้ (13/2) เปิดตลาดที่ะรดับ 108.70/73 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินเยนปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจ้ันทร์ (12/2) ที่ระดับ 108.66/69 เยน/ดอลลาร์สหรับ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจที่จะให้นายฮารฮิโกะ คุโรดะ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นอีกหนึ่งใมัย หลังการดำรงตำแหน่งที่กำลังจะหมดวาระลงในเดือนเมษายน 2561 ทั้งนี้ การต่ออายุการดำรงตำแหน่งของนายคุโรดะเป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความต้องการที่จะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นต่อไปอีก เพื่อพาประเทศให้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด ทั้งนี้การเคลื่อนไหวระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 107.51-108.77 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 107.65/68 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในช่วงนี้ได้แก่ ตัวเลขแฟลชจีดีพีของยูโรโซน (14/2) ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซน (14/2) ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐ (14/2) และตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐ (14/2)

Advertisment

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.35/-2.10 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -3.00/-2.00 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ