
คลังเผยผู้ผ่านเกณฑ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยืนยันตัวตนไม่ทัน 26 เม.ย. ยังสามารถยืนยันตัวตนได้เหมือนเดิม ระบุหากดำเนินการเสร็จในช่วง 27 เม.ย.-26 พ.ค. จะเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2566 เป็นต้นไป
วันที่ 28 เมษายน 2566 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ผู้ผ่านเกณฑ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา หากดำเนินการยืนยันตัวตนภายในช่วงวันที่ 27 เม.ย.นี้จนถึงวันที่ 26 พ.ค. 2566 จะเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2566 เป็นต้นไป
- พายุลูกใหม่จ่อเข้าไทย ชี้ความรุนแรงเท่า “เตี้ยนหมู่” ระวังน้ำท่วมใหญ่
- กรมอุตุฯเตือน “พายุดีเปรสชั่น” เข้าไทย รับมือฝนตกหนัก-ท่วมฉับพลัน
- นายกฯตั้งบอร์ดใหญ่คุมแจกเงิน 10,000 บาท ห้าง-โมเดิร์นเทรดรับอานิสงส์
โดยจะได้รับวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้า) และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด เพิ่มอีก 600 บาท รวมเป็น 900 บาท
ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการที่ให้ได้รับสิทธิย้อนหลังได้ไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ ซึ่งให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเท่านั้น
ส่วนวงเงินอื่น ๆ ยังเป็นไปตามเดิม ได้แก่
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น. (กระทรวงพาณิชย์ ช่วยเพิ่มอีก 20 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็น 100 บาทต่อคนต่อเดือน จนถึงเดือน มิ.ย. 2566)
- วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะจำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน
- มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า อุดหนุนค่าไฟฟ้าจำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด)
- มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา อุดหนุนค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาทด้วยตนเอง แต่หากผู้มีสิทธิมีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด)