บล.กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแนวต้าน 1,500-1,505 จุด ก่อนสลับอ่อนตัวตามคาด เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังคงเป็นแรงกดดัน หุ้นเด่นวันนี้ PTTEP, SAPPE
วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) ปรับตัวขึ้นแนวต้าน 1,500-1,505 จุดก่อนสลับอ่อนตัว ตามคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังภาวะเงินเฟ้ออ่อนแรงลง โดยดัชนี CPI และ PPI เดือน มิ.ย.ที่ลงต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นและแรงซื้อหุ้นที่คาดงบฯไตรมาส 2/66 เติบโตจะช่วยหนุนดัชนี อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังคงเป็นแรงกดดันทิศทางการลงทุนในช่วงนี้
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 16 พ.ค. 2567
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ “ร้อยตรีหญิงจุฑารัตน์ เพชรโสม” เป็นร้อยโทหญิง
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในปีนี้
สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้
โหวตเลือกนายกฯ ครั้งแรกยังไม่ผ่าน : โดยคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้รับเสียงเห็นชอบให้เป็นนายกฯ จำนวน 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง งดออกเสียง 199 เสียง และขาดประชุม 44 เสียง ทำให้ได้เสียงสนับสนุนไม่ถึงกึ่งหนึ่งของ 2 สภา ที่ 376 ส่งผลให้คุณพิธายังไม่ได้เป็นนายกฯ คาดจะเสนอให้โหวตใหม่อีกครั้งในวันที่ 19 ก.ค. 2566
น้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ (+1.5%) ปิดที่ 76.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล คาดหวังดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้สิ้นสุดจากเงินเฟ้อสหรัฐที่ลดลง (CPI, PPI) กดดันดอลลาร์ช่วยกระตุ้นดีมานด์
ภาคการค้าจีนยังแย่ มูลค่าส่งออกและนำเข้ายังลดลงอีกในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา : โดยมูลค่าส่งออกของจีนเดือน มิ.ย. หดตัว 12.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (yoy) แย่ลงจากที่หดตัว 7.5% yoy ในเดือน พ.ค. และแย่กว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัวเพียง 9.5% yoy เช่นเดียวกับมูลค่าการนำเข้าหดตัว 6.8% yoy แย่ลงจากที่หดตัว 4.5% yoy ใน เดือน พ.ค.
บล.กรุงศรี แนะนำหุ้นเด่น
– PTTEP (ปิด 157 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 169 บาท) ได้บรรยากาศ (Sentiment) บวกราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 76.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง ส่งผลบวกโดยตรงต่อ PTTEP ในฐานะ Oil link Company
– SAPPE (ปิด 82.75 ซื้อ/110 บาท) ได้ผลบวกจากสภาพอากาศร้อนจัดในยุโรป และมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกคิดเป็น 80% ของรายได้รวม จึงมีผลจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศน้อย
