สรรพากรถกคำสั่งใหม่ “เงินได้จากต่างประเทศข้ามปี” ต้องเสียภาษี

ลวรณ แสงสนิท
ลวรณ แสงสนิท

อธิบดีกรมสรรพากรชี้แจงกรณีออกคำสั่ง เก็บภาษีเงินได้จากต่างประเทศที่นำเข้ามาประเทศ ไม่ยกเว้นกรณีมีเงินได้เกิดขึ้นข้ามปี ระบุ บริบท กติกา เก็บภาษีโลกเปลี่ยนไป หลังมี พ.ร.ก.แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ

วันที่ 18 กันยายน 2566 นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรณีที่ออกประกาศคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.161/2566 เรื่อง การเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 41 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากรนั้น ต้องอธิบายก่อนว่าหลักการการเก็บภาษีเงินได้ของประเทศไทย จะยึดตามถิ่นที่อยู่ของผู้เสียภาษี ที่ต้องมีระยะเวลาพำนักในประเทศไทยมากกว่า 180 วัน รวมถึงมีหลักเรื่องการรับรู้รายได้ทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมา มีการออกพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. 2566 ทำให้บริบทการเก็บภาษีเปลี่ยนไปด้วย

“ข้อมูลของคนไทยที่มีรายได้เกิดขึ้นในต่างประเทศ เมื่อก่อนอาจจะไม่ค่อยรู้ หรือยากที่จะได้มา แต่หลังจากนี้จะได้ และได้มาแบบอัตโนมัติด้วย หรือว่าได้ในกรณีที่ร้องขอ อันนี้ทำให้เราต้องเปลี่ยนบริบทของการกำหนดเงื่อนไข ว่าเงื่อนไขแบบไหนต้องเสียภาษีบ้าง แต่ทั้งนี้ ขอย้ำว่าทั้งหมดเป็นเรื่องของพัฒนาของกติกาภาษีโลกที่ไทยเข้าไปเป็นสมาชิก และต้องยืนยันด้วยว่า ไม่มีการเก็บภาษีที่ซ้ำซ้อน เพราะว่าไทยก็มีอนุสัญญาภาษีซ้อนกับหลาย ๆ ประเทศคู่ค้าสำคัญของเรา ถือถ้าเสียภาษีที่ไหนแล้ว จะไม่มีการเก็บซ้ำซ้อน” นายลวรณกล่าว

นายลวรณกล่าวว่า ระยะยาวอาจจะต้องแก้ไขประมวลรัษฎากร เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องนี้ และยืนยันว่าทั้งหมดที่ทำ ก็เพื่อการเก็บภาษีที่ถูกต้องและเป็นธรรมสำหรับคนไทยที่ลงทุนในประเทศและในต่างประเทศ ไม่ว่าจะลงทุนที่ไหน ก็ควรต้องเสียภาษีอย่างถูกต้อง โดยนอกจากประกาศฉบับนี้ที่ออกมาแล้ว จะมีกฎหมายตามมาอีก เพื่อให้เกิดความชัดเจนเรื่องวิธีปฏิบัติ

“หลังจากนี้ กรมจะเชิญกลุ่มที่เกี่ยวข้องมาคุย จัดเป็นโฟกัสกรุ๊ป ทั้งกลุ่มที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล กลุ่มที่ลงทุนในธุรกรรมด้านการเงิน เพื่อให้เขาแสดงความคิดเห็น สิ่งที่เป็นข้อกังวล หรือคำแนะนำ เพื่อให้การดำเนินการในช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด ส่วนเรื่องรายได้ เรายังไม่ได้ประมาณการ เอาในแง่ของหลักการ เรื่องของวิธีการที่ต้องเปลี่ยนไปก่อนตามกติกาภาษีโลก” นายลวรณกล่าว

อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ ทางกระทรวงการคลังคงมีการเสนอรัฐบาลพิจารณาโครงสร้างภาษีที่ต้องปรับปรุงในภาพใหญ่ต่อไป