“เติมสภาพคล่อง-ลดหนี้” SMEs ส่งออก

ภาพประกอบข่าว ธนบัตร เศรษฐกิจ

คอลัมน์ Look Around

การทำธุรกิจ “สภาพคล่อง” ถือเป็นสิ่งสำคัญจำเป็นอย่างมาก เพราะช่วย “หล่อเลี้ยง” ไม่ให้กิจการสะดุด ยิ่งในยามภาวะการส่งออกชะลอ คำสั่งซื้อจากต่างประเทศลดลง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกยิ่งลำบาก ดังนั้น ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ที่เข้าใจถึงปัญหาเป็นอย่างดี จึงได้ออกมาตรการมาช่วยผู้ประกอบการ 2 มาตรการด้วยกัน วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท

มาตรการแรก “EXIM เสริมสภาพคล่องผู้ส่งออก” วงเงิน 2,000 ล้านบาท ที่ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเลือกใช้วงเงินกู้ระยะยาว หรือวงเงินกู้ระยะสั้นได้ วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลาชำระคืนสูงสุด 7 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 เท่ากับ 3.99% ต่อปี สามารถใช้หนังสือค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นหลักประกันร่วมกับหลักประกันอื่น ๆ ได้ แถมฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อสูงสุด 4 ปี

กับมาตรการ “EXIM ลดภาระในการชำระหนี้” วงเงิน 4,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอีของ EXIM BANK ที่ยังไม่ต้องการวงเงินเพิ่ม แต่ต้องการลดภาระในการผ่อนชำระหนี้รายงวดที่มีกับ EXIM BANK ทั้งเงินกู้ยืมระยะยาวและเงินกู้ยืมระยะสั้น

โดยลูกค้าที่มีวงเงินกู้ยืมระยะยาวจะขยายระยะเวลาผ่อนชำระเงินกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 2 ปี กรณีขยายระยะเวลาผ่อนชำระเงินกู้ไม่เกิน 1 ปี จะได้รับอัตราดอกเบี้ยลดลงจากเดิม 0.125% ต่อปี ส่วนลูกค้าที่มีวงเงินกู้ยืมระยะสั้นจะได้รับการเพิ่มสัดส่วนการเบิกกู้และลดอัตราดอกเบี้ย โดยเบิกกู้ได้เพิ่มสูงสุด 95% ของมูลค่า L/C และ 85% ของมูลค่า P/O พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.125% ต่อปี เป็นระยะเวลา 1 ปี

Advertisment

“พิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา” กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK คาดว่า จะช่วยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ราว 15,700 ล้านบาท ช่วยให้เกิดการจ้างงานในระบบ 5,200 ราย เพิ่มสภาพคล่องและบรรเทาภาระหนี้ของผู้ส่งออกเอสเอ็มอีได้กว่า 750 ราย

ทั้งนี้ กำหนดระยะเวลาให้บริการมาตรการนี้ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 62 นี้ไปจนถึง 31 ธ.ค. 63 เป็น “ของขวัญปีใหม่” ให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอีไทย