สรรพสามิต ชี้ภายใน 2 สัปดาห์ บุหรี่ยังไม่ขึ้นราคา

สรรพสามิต เปิดรายละเอียดภาษีบุหรี่ใหม่ เริ่ม 1 ต.ค.นี้ คาดเก็บรายได้เพิ่ม 4,500 ล้านบาท ชี้ 1-2 สัปดาห์ต้องขายราคาเก่า แนะผู้บริโภคสแกนคิวอาร์โค้ดก่อนซื้อ พบล็อตเก่าขายแพงแจ้ง สคบ. ได้ 

วันที่ 30 กันยายน 2564 นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้กำหนดโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบใหม่ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564  โดยอัตราภาษีบุหรี่ซิกาแรต จัดเก็บภาษีตามมูลค่า 25% ของราคาขายปลีกแนะนำ ซองละไม่เกิน 72 บาท และ 42% ของราคาขายปลีกแนะนำที่เกินซองละ 72 บาท และจัดเก็บภาษีตามปริมาณ 1.25 บาทต่อมวน  และอัตราภาษียาเส้นที่มีปริมาณการผลิตไม่เกิน 12,000 กิโลกรัมต่อปี จัดเก็บอัตราภาษีตามปริมาณที่ 0.025 บาทต่อกรัม และยาเส้นที่มีปริมาณการผลิตเกิน 12,000 กิโลกรัม จัดเก็บอัตราภาษีตามปริมาณที่ 0.10 บาทต่อกรัม  

“โครงสร้างบุหรี่ใหม่จะทำให้บุหรี่มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นประมาณซอง 4-5 บาท จึงคาดว่าราคาขายปลีกบุหรี่ซอง 60 บาท อาจขึ้นไป 66-72 บาท แต่สุดท้ายจะขึ้นจริงเท่าไรต้องรอผู้ประกอบการแจ้งเข้ามา ซึ่งเชื่อว่าภาษีใหม่จะลดการสูบบุหรี่ลงได้ 2-3% ทำให้รัฐเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 3,500-4,500 ล้านบาทต่อปี จากเดิมที่กรมจัดเก็บภาษีดังกล่าวได้เฉลี่ย ปีละ 62,000 บาท และทำให้บุหรี่มีการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยไม่มีบุหรี่ราคาสูงลดราคาลงมาแข่งกับบุหรี่ราคาถูกแน่นอน”

ทั้งนี้ ช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ราคาบุหรี่ควรจะขายราคาเดิม ห้ามขึ้นราคา เนื่องจากตามขั้นตอนการขึ้นภาษีบุหรี่หลังจากที่กฎหมายบังคับใช้ 1 ต.ค.นี้ ผู้ผลิต ผู้นำเข้าจะต้องจัดทำราคาขายปลีกแนะนำตามโครงสร้างภาษีใหม่มาให้กรมพิจารณา และจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1-2 สัปดาห์ถึงประกาศให้ขึ้นได้ ดังนั้นวันที่ 1 ต.ค.บุหรี่จะยังเป็นของสต็อกเก่าจึงต้องขายราคาเดิม แต่หากพบผู้ประกอบการขึ้นราคา และหากตรวจพบว่าแจ้งภาษีเป็นเท็จ มีโทษปรับภาษีเพิ่มขึ้น 2 เท่า และเงินเพิ่มอีก 7.5% แต่ถ้าเป็นร้านค้าปลีกขายเกินราคาจะมีการตักเตือน หากไม่เชื่อฟังก็อาจต้องยึดใบอนุญาต 

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการกักตุน และฉวยโอกาสขึ้นราคาตั้งแต่เที่ยงคืน ของวันที่ 1 ต.ค.นี้ จะมีการส่งเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ปูพรมตรวจสต็อกผู้ประกอบการ ร้านค้าส่งรายใหญ่ว่ามีสต็อกเดิมเท่าไร และในปีนี้จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพปราบปรามบุหรี่เถื่อนอย่างจริงจัง โดยมีการตั้งศูนย์สำหรับติดตามของหนีภาษีทางออนไลน์ ขณะเดียวกันขอให้ประชาชนช่วยสอดส่อง โดยสามารถใช้โทรศัพท์มือสแกนรหัสคิวอาร์โค้ดบริเวณแสตมป์บนซองบุหรี่ หากเป็นบุหรี่ที่เสียภาษีก่อน 1 ต.ค.64 ที่ขายเกินราคา สามารถร้องเรียนมาที่กรมสรรพสามิต และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ได้

ขณะเดียวกัน ครม. ได้มอบหมายให้กรมฯศึกษาการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่เป็นอัตราเดียว เพื่อสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันในอนาคต  พร้อมทั้งให้ การยาสูบฯ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เข้ามาช่วยชาวไร่ยาสูบ ปลูกพืชทดแทนแทนยาสูบ

“ครม.ยังได้เห็นชอบในหลักการโครงการ ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทยฤดูการผลิต 2562/2563 โครงการดังกล่าวจะใช้งบประมาณจำนวน 159.59 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระประมาณ 14,200 ราย ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตจะประสานการยาสูบแห่งประเทศไทยและสำนักงบประมาณ เพื่อจ่ายเงินชดเชยให้แก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระต่อไป”