บาทแข็งค่าขานรับเงินทุนไหลเข้า พร้อมรับมุมมองเชิงบวกทางเศรษฐกิจของ กนง.

เงินบาท

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565

ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (9/2) ที่ระดับ 32.86/88 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (8/2) ที่ระดับ 32.98/98 บาท ค่าเงินบาทได้รับแรงหนุนจากการมีกระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดทุนในช่วงนี้ อาทิ เมื่อวานนี้ (8/2) มียอดซื้อสุทธิของชาวต่างชาติในตลาดพันธบัตร 1.6 หมื่นล้านบาท และตลาดหุ้นอีก 6.6 พันล้านบาท โดยในวันนี้ (9/2) ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 1/2565 มีมติเป็นเอกฉันท์ 7:0 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ต่อปี

โดยคณะกรรมการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน คาดว่าจะสร้างแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุขในวงจำกัด แต่ยังต้องติดตามการระบาดในระยะต่อไป ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มเร่งขึ้นในช่วงแรกของปี 2565 จากราคาพลังงานและอาหารสดบางประเภท ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ยังอยู่ในระดับต่ำ สะท้อนรายได้และกำลังซื้อที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัว

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามราคาพลังงานโลกและสัญญาณการปรับเพิ่มขึ้นของราคาสินค้า และบริการเป็นวงกว้าง ทั้งนี้คณะกรรมการจึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ โดยนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่องจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐิจ ควบคู่กับมาตรการทางการเงินการคลังที่เน้นการฟื้นฟูและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ตลาดแรงงาน รวมถึงรายได้ของภาคธุรกิจและครัวเรือนฟื้นตัวได้อย่างเข้มแข็ง

นอกจากนี้ในการประชุมคณะกรรมการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี’64 จะขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้ในการประชุมครั้งก่อนและมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2565 จากการส่งออกสินค้าที่ปรับสูงขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางที่เร็วกว่าคาด อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังมีความเปราะบางและแตกต่างกันในแต่ละภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดคณะกรรมการเห็นว่ายังต้องติดตามพัฒนาการของตลาดแรงงานและผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นในภาวะที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.73-32.92 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 32.75/77 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

Advertisment

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (9/2) ที่ระดับ 1.1416/18 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (8/2) ที่ระดับ 1.1420/22 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรยังเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1.1400 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในแถบยูโรโซน ที่มีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่คาด ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางยุโรปมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1403-1.1432 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1430/32 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (9/2) ที่ระดับ 115.51/53 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันอังคาร (8/2) ที่ระดับ 115.39/43 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยนยังถูกกดดันอย่างต่อเนื่องหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทะลุ 1.94% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ ทั้งนี้เป็นที่คาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าที่คาดไว้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 115.32-115.54 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 115.44/45 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ม.ค.ของสหรัฐ (10/2), ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของสหรัฐ (10/2), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐ (10/2), ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (11/2)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +0.7/+0.8 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -3.0/-1.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ

Advertisment