‘ครูปรีชา’ไม่ตอบ ผบก.กาญจน์ถูกเด้ง! มั่นใจคนติดคุกไม่ใช่ผม

ความคืบหน้ากรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวว่า ทางกองปราบปรามเปิดเผยผลการสืบสวนสอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ จนได้ข้อสรุปว่า ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข 533726 น่าจะเป็นของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ อายุ 62 ปี อดีตข้าราชเกษียณตำรวจ เนื่องจากมีพยานหลักฐานสนับสนุนจำนวนมาก กระทั่งวันที่ 21 ก.พ. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ได้มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ให้มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. เนื่องจากเข้าไปบิดเบือนคำให้การในสำนวนการสอบสวน ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 2560 จนทำให้ตำรวจภูธรภาค7 ชี้ผลสรุปลอตเตอรี่เป็นของครูปรีชา นั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ 22 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี คู่กรณีที่มีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์สลากฯ ดังกล่าว ที่บ้านพักเลขที่ 143/22 ทุ่งนา ซ.5 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อสอบถามถึงกระแสข่าวดังกล่าว

จากนั้นในเวลาประมาณ 08.20 น. ครูปรีชา ก็ได้เดินออกมาจากภายในบ้านเพื่อเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเพื่อจะขับรถออกจากบ้านไปโรงเรียน ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สังเกตเห็นสีหน้าของ ครูปรีชา ไม่ยิ้มแย้มเหมือนเช่นทุกวัน
โดย ครูปรีชา เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเด้ง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรีว่า ตนขอเช็คข่าวในเรื่องดังกล่าวก่อน เพราะต้องรอความชัดเจนของข่าวก่อนว่าข่าวดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ ชัดเจนหรือไม่ ร้อยเปอร์เซนต์หรือไม่ แล้วจึงจะให้สัมภาษณ์ได้

ทั้งนี้คำสั่งทางราชการที่ส่งต่อกันในไลน์ ตนจะยังไม่เชื่อ อีกทั้งระบบราชการจะยังไม่เชื่อกัน ต้องขอเช็คกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งตนได้ดูข่าวผ่านทางสื่อต่างๆ แล้ว แต่ยังไม่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่
เมื่อวานก็สบายใจ แต่ว่าสื่อบางช่องทำไม่ถูกต้อง ตนจึงต้องอบรมเหมือนเช่นครูกับนักเรียน ซึ่งหากลงตามความเป็นจริงตนก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่หากที่ลงไปไม่ใช่เรื่องจริง ก็ต้องมีการชี้แจงกัน

ตนยังมีความมั่นใจเหมือนเดิม เพราะเรื่องจริงคือเรื่องจริง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่ออาชีพครู เพราะว่าตนยังไม่มีความผิด ฉะนั้นอย่าเข้าใจผิด

Advertisment

กรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกมาสรุปผลว่าใครผิดใครถูกนั้น เป็นเรื่องของการคาดคะเนจากพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องผ่านกระบวนการศาลก่อน ซึ่งศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยและตัดสินว่าใครเป็นคนผิด คนถูก ซึ่งตนได้มีแผนรองรับโดยปรึกษาทีมทนายความไว้เรียบร้อยแล้ว และไม่ได้หวั่นวิตกว่า ตนจะต้องติดคุก เพราะคุกเอาไว้ขังคนไม่ดี ซึ่งตอนนี้ตนยังมีกำลังใจดีอยู่

“ต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า เรื่องนี้เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วจะต้องมีคนหนึ่งคนใดจะต้องติดคุก ครูปรีชา ตอบว่า ไม่วิตกกังวล เพราะไม่ใช่ตนแน่ และขอให้ดูกันต่อไป ขอให้ติดตามกันต่อไป หนังมีหลายตอน ต้องดูจากพยานหลักฐาน ซึ่งตนมีหลักฐานเด็ด แต่ไม่นำมาเปิดเผยผ่านสื่อ เพราะเป็นเรื่องของคดี” ครูปรีชา กล่าว

จากนั้นก็เดินขึ้นรถและขอตัวไปโรงเรียน โดยได้นัดหมายสื่อมวลชนให้ไปพบที่โรงเรียนฯ เพื่อเปิดโอกาสให้สัมภาษณ์ ในเวลาประมาณ 12.00 น.

 

Advertisment

ที่มา มติชนออนไลน์