เจ้าอาวาสวัดสิงห์ เผยแก๊งงานบวชโดนห้ามใช้ลำโพงแล้วของขึ้น ขว้างแก้วลงพื้น

เจ้าอาวาสวัดสิงห์ เล่าแก๊งงานบวชโดนห้ามใช้ลำโพงแล้วของขึ้น ขว้างแก้วลงพื้น “เอกไฝ” โผล่รุดขอโทษ ก่อนพวกยกทัพบุกถล่มสนามสอบโรงเรียน

จากกรณี แก๊งงานบวช ที่มีนายวัลลภ นุชแฟง หรือ “เอกไฝ” อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ. 108/2562 ลงวันที่ 24 ก.พ.62 ที่มีพฤติกรรมในลักษณะหัวโจก พาพวกบุกเข้าไปในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ก่อนทำร้ายร่างกายครู และนักเรียนที่กำลังทำการสอบ GAT/PAT ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน ได้ดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งหมด 24 ราย และเตรียมออกหมายจับอีก 3 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่วัดสิงห์ แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง​ กรุงเทพฯ พระครูนวการวิมล เจ้าอาวาสวัดสิงห์ เล่าเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุว่า อาตมาได้ประกาศด้วยเครื่องขยายเสียงไปแล้วครั้งแรก ช่วง 10.00 น. ให้งดใช้เสียง เนื่องจากมีการสอบ GAT/PAT ที่โรงเรียนวัดสิงห์ ซึ่งเป็นการสอบระดับประเทศ กระทั่งเวลา 14.00 น. พิธีการแห่นาคเริ่มขึ้น แต่ทางกลุ่มแตรวงดังกล่าวยังคงเล่นดนตรีกันต่อ ไม่ยอมฟังคำเตือนโดยส่งเสียงดังมากและพยายามนำรถเครื่องเสียงเข้ามาในโบสถ์ จึงตัดสินใจเดินไปพูดคุยกับกลุ่มวงดนตรีทั้งๆ ที่เพิ่งผ่าตัดขามา โดยบอกว่า “ถ้าไม่ยอมหยุดใช้เสียง พระอาจารย์จะไม่บวชพระใหม่ให้”

หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุจึงเกิดความไม่พอใจ และพูดขึ้นมาว่า “จ้างวงดนตรีมาตั้ง 2 หมื่นบาท จะไม่ให้เล่นได้ไง” ก่อนจะมีการปาแก้วลงพื้นเนื่องจากไม่พอใจ จากนั้นนายวัลลพ หรือ “เอกไฝ” เจ้าของวง จึงได้เดินเข้าไปขอโทษเจ้าอาวาส ก่อนจะเข็นรถเครื่องเสียงออกไป จึงบวชให้กับพระใหม่ตามพิธีการต่อไป กระทั่งได้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

พระครูนวการวิมล กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันกับพระใหม่ และได้สั่งพระพี่เลี้ยงเข้าไปดูแล เนื่องจากเขามีความเครียด จิตใจสับสนและยังคงห่มผ้าจีวรไม่เป็น ซึ่งตอนนี้ได้สั่งให้ปฎิบัติธรรมต่างๆ เบื้องต้นไปก่อน และยังไม่ได้ให้ออกไปไหน​

Advertisment

ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พระใหม่จะขอย้ายไปจำวัดที่ จ.ร้อยเอ็ด​ นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่หากจะขอย้ายวัดจริง​ พระใหม่จะต้องแจ้งให้ทางเจ้าอาวาสทราบเท่านั้น

ทั้งนี้​ พระครูนวการวิมล​ กล่าวอีกว่า​ หลังจากนี้ หากประชาชนจะมีการใช้เครื่องขยายเสียงในงานพิธีทางศาสนา​จะต้องได้รับอนุญาตจากทางเจ้าอาวาสเพียงคนเดียวเท่านั้น​

 

 

Advertisment

 

ที่มา มติชนออนไลน์