มิ.ย.ประกาศถนน 4 เลนอัพสปีดวิ่ง 120 กม./ชม. นำร่องสายเอเชีย “อยุธยา-อ่างทอง”

แฟ้มภาพประกอบข่าว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการแปรนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมไปสู่การปฏิบัติผ่านระบบ VDO Conference เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2563

โดยมี นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เพื่อพิจารณานโยบายปรับเพิ่มอัตราความเร็วของรถยนต์ทุกประเภทบนถนนที่มีช่องจราจรตั้งแต่ 4 ช่องขึ้นไป จากความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เส้นทางแรกที่จะนำร่องกำหนดอัตราความเร็วของรถยนต์เป็นไม่เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง คือ ทางหลวงหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา – จังหวัดอ่างทอง ระยะทาง 50 กิโลเมตร และระยะที่ 2 จังหวัดอ่างทอง – จังหวัดชัยนาท ระยะทาง 100 กิโลเมตร

ซึ่ง ทล.จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รวมทั้งปรับปรุงจุดกลับรถ ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น ป้ายจราจร เครื่องหมายจราจร ตีเส้นช่องจราจร และประกาศกฎกระทรวงให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2563

เพื่อออกประกาศใช้กับถนนในแต่ละเส้นทางต่อไป เนื่องจากการใช้ความเร็วรถยนต์ได้ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะต้องประกาศใช้กับถนนที่มีความปลอดภัยแล้วเท่านั้น ไม่สามารถใช้ได้กับทุกเส้นทาง

ทั้งนี้ คจร.ได้เห็นชอบในหลักการให้ประกาศเป็นกฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ออกตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2563 โดยกำหนดความเร็วของรถแต่ละประเภทตามที่ ขบ. ระบุไว้ 6 ประเภท ดังนี้

1. รถบรรทุกที่มีน้ำหนักตัวรถเกิน 2,200 กิโลกรัม รถบรรทุกคนโดยสารที่ใช้บรรทุกคนโดยสารเกิน 15 คน ให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง

2. รถในขณะที่ลากจูงรถคันอื่น รถยนต์สี่ล้อเล็ก หรือรถยนต์สามล้อ ให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 65 กิโลเมตร/ชั่วโมง

3. รถจักรยานยนต์ ให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือรถจักรยานยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์ตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ขึ้นไป หรือมีขนาดความจุของกระบอกสูบรวมกันตั้งแต่ 400 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไป ให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง

4. รถโรงเรียน หรือรถรับ – ส่งนักเรียน ให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง

5. รถบรรทุกคนโดยสาร 7 – 15 คน ให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง

6. รถยนต์อื่นนอกจากรถที่ระบุไว้ดังกล่าวข้างต้น ให้ขับโดยใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยขับในช่องทางเดินรถช่องขวาสุด และใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ทั้งนี้ การกำหนดอัตราความเร็วสูงสุดเป็น 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และกำหนดประเภทถนนที่ใช้ความเร็วดังกล่าวได้ ต้องเป็นทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบทที่มีช่องเดินรถทิศทางเดียวกันตั้งแต่ 2 ช่องขึ้นไป (4 ช่องจราจรไป – กลับ) มีเกาะกลางถนนแบบกำแพงกั้น (Barrier Median) และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน


สำหรับกรณีที่มีเครื่องหมายจราจรกำหนดอัตราความเร็วไว้ให้ผู้ขับขี่รถทุกประเภทขับขี่ในอัตราที่กำหนดไว้ในเครื่องหมายจราจร ทล. และ ทช. จะติดตั้งเครื่องหมายจราจรระบุว่าบริเวณใดใช้ความเร็วได้ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 500 เมตร เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่าเข้าพื้นที่กำหนดความเร็วแล้ว