“ทาทา ซันส์” เร่งยกเครื่อง ภารกิจฟื้น “แอร์อินเดีย”

สนามบิน

ความคืบหน้าหลังจากการบรรลุข้อตกลงเข้าซื้อกิจการ “แอร์อินเดีย” (Air India) เมื่อ ต.ค. 2021 ส่งผลให้สายการบินแห่งชาติอินเดียกลับสู่อ้อมอกของ “ทาทา ซันส์” กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ของอินเดียอีกครั้ง แต่การเข้ามาบริหารครั้งนี้ไม่ใช่งานง่าย ด้วยปัญหาที่หมักหมมมาเป็นเวลานาน กลายเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่ทาทาต้องเร่งสะสาง

ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า หลังจากที่รัฐบาลอินเดียส่งมอบสายการบิน “แอร์อินเดีย” ให้อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของทาทาเมื่อปลายเดือน ม.ค. 2022 ตามข้อตกลงเข้าซื้อกิจการก่อนหน้านั้น ทาทาได้เริ่มแผนการปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อฟื้นฟูกิจการที่บรรพบุรุษของตนก่อตั้งขึ้นเมื่อ 89 ปีก่อน

ในแผนการปฏิรูปสายการบินแห่งชาติ ทาทาต้องเร่งแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับเครื่องบินเก่าที่ยังคงให้บริการ ปัญหาวัฒนธรรมองค์กรแบบระบบราชการที่ล้าหลัง รวมถึงปรับปรุงศักยภาพเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

โดยทาทาจะยังคงจ้างพนักงานเดิมของแอร์อินเดียราว 13,500 คน ต่อไปอีก 1 ปี ก่อนที่จะเสนอโครงการเกษียณอายุด้วยความสมัครใจเพื่อปรับปรุงโครงสร้างบุคลากร ส่วนสวัสดิการที่พนักงานเคยได้รับในฐานะรัฐวิสาหกิจจะถูกจำกัดลง อย่างการยกเลิกสวัสดิการที่พักอาศัยสำหรับพนักงานที่มีผลแล้ว

“จิเทนดรา บาร์กาวา” อดีตกรรมการบริหารสายการบินแอร์อินเดีย ระบุว่า การปฏิรูปวัฒนธรรมองค์กรเป็นสิ่งสำคัญต่อการฟื้นฟูแอร์อินเดีย เนื่องจากวัฒนธรรมระบบราชการที่ผ่านมานั้นไร้ประสิทธิภาพ การสร้างแรงจูงใจให้พนักงานปฏิบัติงานอย่างเต็มศักยภาพก็เป็นเรื่องที่ทาทาต้องให้ความสำคัญ

Advertisment

นอกจากนี้ การเข้าซื้อกิจการแอร์อินเดียก็เป็นโอกาสที่ทาทาจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมการบิน เนื่องจากปัจจุบันทาทาถือครองหุ้น 51% ในสายการบินฟูลเซอร์วิส “วิสตารา” (Vistara) และยังถือหุ้นในสายการบินราคาประหยัด “แอร์เอเชีย อินเดีย” ถึง 84%

ขณะที่การครอบครองกิจการแอร์อินเดีย ทำให้ทาทาได้รับสิทธิช่องจอดในสนามบินถึง 6,200 จุดในอินเดีย และอีก 900 จุดในสนามบินทั่วโลก “เอเดรียน โชฟิลด์” บรรณาธิการ นิตยสารอุตสาหกรรมการบิน “เอวิเอชั่นวีก” ระบุว่า การรวมสายการบินย่อยจะเป็นก้าวต่อไปของทาทา ซึ่งจะทำให้ทาทามีโอกาสครองส่วนแบ่งในตลาดการบินอินเดียถึง 23%

อย่างไรก็ตาม แผนการปฏิรูปนี้ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น ปัจจุบันการดำเนินงานของแอร์อินเดียยังคงสร้างความเสียหายสูงถึง 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/วัน ดังนั้นการปรับปรุงหรือเปลี่ยนเครื่องบินใหม่ที่ต้องใช้เงินทุนมหาศาลอาจยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน

ทั้งนี้ แอร์อินเดียก่อตั้งขึ้นในปี 1932 โดย เจ. อาร์. ดี. ทาทา ก่อนที่รัฐบาลอินเดียจะเข้าครอบครองและโอนเป็นรัฐวิสาหกิจในปี 1953 แต่ภายใต้การบริหารงานที่ขาดประสิทธิภาพ ทำให้แอร์อินเดียมีหนี้สินพอกพูนถึง 8,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Advertisment

แต่ข้อตกลงเข้าซื้อกิจการแอร์อินเดีย กลุ่มทาทาไม่ได้แบกรับภาระหนี้สินทั้งหมด เนื่องจากทาทาเสนอดีลซื้อกิจการครั้งนี้ด้วยมูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการจ่ายเงินให้รัฐบาลราว 375 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนที่เหลือเป็นการชำระหนี้สินของแอร์อินเดียบางส่วน

ขณะที่บริษัทโฮลดิ้งของรัฐบาลยังคงเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของแอร์อินเดีย มูลค่าเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งยังแบกรับหนี้สินราว 3 ใน 4 ของหนี้สินทั้งหมด และทาทายังสามารถเข้าถึงเงินกู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินภาครัฐ สำหรับชำระหนี้ของแอร์อินเดียได้อีกด้วย

“คาปิล เคาล์” ผู้บริหารของบริษัทที่ปรึกษาและวิจัยการบิน “ซีเอพีเอ อินเดีย” ระบุว่า “ทาทาอาจต้องใช้เวลาฟื้นฟูแอร์อินเดีย 3-5 ปี แต่ช่วง 12-18 เดือนแรกมีความสำคัญอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์และสร้างเสถียรภาพขององค์กร”