เปิด 5 อันดับบริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด ปี 2566

ออฟฟืศ
Photo: Alex Kotliarsky/-unsplash

ผลสำรวจตลาดแรงงานคนรุ่นใหม่ของไทย ประจำปี 2566 พบเทรนด์ความยั่งยืนส่งผลให้คนรุ่นใหม่อยากทำงานในอุตสาหกรรมพลังงานเพิ่มขึ้น ขณะที่เงินเดือนที่คาดหวังไม่น้อยกว่า 4 แสนบาทต่อปี พร้อมเปิด 5 อันดับองค์กรที่นักศึกษาสาขาธุรกิจ และสาขาวิศวกรรมอยากทำงานด้วยมากที่สุด 

วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ยูนิเวอร์ซัม (Universum) บริษัทผู้นำระดับโลกด้านการวิจัย ให้คำปรึกษา และการสื่อสารแบรนด์ให้แก่องค์กร เผยข้อมูลตลาดแรงงานคนรุ่นใหม่ของไทยล่าสุด ผ่านรายงานผลสำรวจระดับโลก Universum Talent Research ประจำปี 2566 ที่ได้สำรวจความคิดเห็นและความคาดหวังของคนรุ่นใหม่ต่อการทำงานในอนาคต

ซึ่งรายงานผลสำรวจมาจากการจัดทำแบบสอบถามนักศึกษา 8,437 คน ที่เรียนสาขาวิชา 112 สาขา จากมหาวิทยาลัยและสถานศึกษา 23 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างเดือนกันยายน 2565-กุมภาพันธ์ 2566

เทรนด์ยั่งยืน ส่งผลให้คนรุ่นใหม่อยากทำงานองค์กรพลังงาน

ผลสำรวจพบว่า นักศึกษาสาขาธุรกิจอยากทำงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งเป็นผลจากการที่ผู้คนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตามปกติอีกครั้งตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ขณะที่อุตสาหกรรมการผลิตเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับนักศึกษาสาขาวิศวกรรม

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสังเกตคือ คนไทยรุ่นใหม่สนใจอยากทำงานในอุตสาหกรรมพลังงานเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้นถึง 19% ในกลุ่มนักศึกษาสาขาวิศวกรรม และเพิ่มขึ้น 3.9% ในกลุ่มนักศึกษาสาขาธุรกิจ หลังประเทศไทยเดินหน้าพัฒนาความยั่งยืนในทุกภาคส่วน

นายไมค์ พาร์สันส์ (Mike Parsons) กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของยูนิเวอร์ซัม
นายไมค์ พาร์สันส์ (Mike Parsons) กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของยูนิเวอร์ซัม

นายไมค์ พาร์สันส์ (Mike Parsons) กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของยูนิเวอร์ซัม กล่าวว่า การที่อุตสาหกรรมด้านพลังงานได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่คนไทยรุ่นใหม่ สอดคล้องกับเทรนด์ความยั่งยืนที่ทั้งภาครัฐ และเอกชนต่างให้ความสำคัญมากขึ้นในปีนี้

โดยเฉพาะด้านการผลิตและการหันมาใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน สะท้อนให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ทุกวันนี้ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน และต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่ดีกับสิ่งแวดล้อม และมีความยั่งยืนมากขึ้น

ดังนั้น องค์กรที่สามารถสื่อสารนโยบาย และเป้าหมายธุรกิจในด้านความยั่งยืนได้อย่างชัดเจนจะมีโอกาสดึงดูดคนเก่งรุ่นใหม่ให้มาร่วมงานได้มากกว่า

3 อุตสาหกรรมยอดนิยมของนักศึกษา

สำหรับ 3 อันดับอุตสาหกรรมยอดนิยมที่นักศึกษาสาขาธุรกิจสนใจมากที่สุด ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ (33%) 2.วิจัยการตลาด (28%) และ 3.โฆษณา (27%)

ส่วนอุตสาหกรรมที่นักศึกษาสาขาวิศวกรรมสนใจมากที่สุดในปีนี้ ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมการผลิต (35%) 2.ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี (30%) และ 3.การปรึกษาด้านไอทีและวิศวกรรม (28%)

ด้านอันดับบริษัทที่นักศึกษาสาขาธุรกิจอยากทำงานด้วยมากที่สุด คือ กูเกิล (Google) ยังคงรั้งอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GMM Grammy) ยูนิโคล่ (UNIQLO) และไลน์ คอร์ปอเรชั่น (LINE Corporation)

ในขณะเดียวกันผลสำรวจยังเผยว่า นักศึกษาสาขาวิศวกรรมอยากทำงานกับ ปตท. (PTT) มากที่สุด ตามด้วยกูเกิล (Google) ปูนซิเมนต์ไทย (Siam Cement Group : SCG) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

ความต้องการและความคาดหวัง

รายงานผลสำรวจปีนี้ ยูนิเวอร์ซัมยังได้จัดแบ่งกลุ่มโปรไฟล์คนรุ่นใหม่ตามความต้องการและความสนใจที่ต่างกันเมื่อต้องเข้าทำงานในองค์กร โดยพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมตอบแบบสำรวจจัดอยู่ใน กลุ่มมองหาไลฟ์สไตล์ที่สมดุล (Balance-Seekers) มากที่สุด (34%)

ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสมดุลในการใช้ชีวิตและการทำงาน (work-life balance) พวกเขามองหาองค์กรที่มีความมั่นคงและมีบรรยากาศการทำงานที่ดี ให้เงินเดือนที่ไม่น้อยกว่าบริษัทอื่น และมีความยืดหยุ่นที่พวกเขาสามารถบาลานซ์ภาระความรับผิดชอบเรื่องงานและความสนใจด้านอื่น ๆ นอกจากงานได้อย่างเหมาะสม

รองลงมาได้แก่ กลุ่มไล่ตามเป้าหมายความท้าทาย (Go-Getters) (24%) ที่พร้อมเปิดรับโอกาสความท้าทายใหม่ ๆ และความรับผิดชอบที่มากขึ้น เพื่อการได้รับการเล็งเห็นถึงศักยภาพความสามารถและการเติบโตในองค์กรแบบก้าวกระโดด

ตามมาด้วย กลุ่มเดินทางเพื่อเติมเต็มประสบการณ์การทำงาน (Globe-Trotters) (15%) ที่มองหาโอกาสในการทำงานในองค์กรระดับสากลที่สามารถเดินทางไปต่างประเทศ และได้ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานและลูกค้าทั่วโลก

และกลุ่มสร้างสรรค์เปลี่ยนแปลงสังคม (Change-Makers) (14%) ที่อยากร่วมงานกับองค์กรที่ทำงานเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริการเพื่อสาธารณะหรือองค์กรเพื่อสังคมก็ตาม โดยให้คุณค่ากับเรื่องความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วมในองค์กร (diversity, equity, and inclusion : DE&I) และรู้สึกมีพลังในการทำงานเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม

เงินเดือน-ผลตอบแทนอื่น ๆ เป็นปัจจัยหลัก

แม้คนไทยรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะชอบการทำงานแบบระยะไกล หรือ remote working แต่พวกเขาก็รู้สึกกังวลว่าจะต้องทำงานเกินเวลา (48%) และไม่สามารถรักษาสมดุลชีวิตกับการทำงานที่ต้องการได้

ขณะที่ปัจจัยอย่าง “เงินเดือนที่ไม่น้อยกว่าบริษัทอื่น” และ “ผลตอบแทนอื่น ๆ” ยังคงเป็นสองปัจจัยสำคัญที่นักศึกษาไทยให้ความสำคัญมากที่สุด แต่พวกเขาก็มีความต้องการในคุณค่าอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย ได้แก่ การร่วมงานกับองค์กรที่มีบรรยากาศการทำงานที่ดี มีความมั่นคงด้านอาชีพการงาน มีความยืดหยุ่นในการทำงาน สามารถรักษาสมดุลชีวิตกับการงาน เปิดโอกาสให้พนักงานแสดงศักยภาพความสามารถได้เต็มที่ มีความเคารพต่อพนักงานอย่างเท่าเทียม และมองเห็นโอกาสการเติบโตในหน้าที่การงานที่ชัดเจน

นายพาร์สันส์กล่าวต่อว่า ตลาดงานปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูงมากขึ้น องค์กรจึงต้องให้ความสำคัญกับปัจจัยคุณค่าเหล่านี้เพื่อดึงดูดคนเก่งรุ่นใหม่ นอกจากการให้เงินเดือนและผลตอบแทนที่ไม่น้อยกว่าบริษัทอื่นแล้ว องค์กรควรสร้างวัฒนธรรมและบรรยากาศการทำงานที่สนับสนุนและส่งเสริมพนักงานให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน มีความยืดหยุ่น ส่งเสริมให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร

พร้อมมอบโอกาสการเติบโตในเส้นทางอาชีพ เมื่อองค์กรกำหนดนโยบายและผลักดันคุณค่าองค์กรเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถดึงดูดคนเก่งรุ่นใหม่ให้มาร่วมงาน รวมถึงเสริมชื่อเสียงขององค์กรในฐานะบริษัทที่คนอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดด้วย

คนรุ่นใหม่ศึกษาข้อมูลองค์กรที่อยากทำงานผ่าน “เฟซบุ๊ก”

ในส่วนของช่องทางการสื่อสาร 80% ของนักศึกษาไทยกล่าวว่า พวกเขามักเข้าไปศึกษาข้อมูลขององค์กรที่พวกเขาสนใจทางช่องทางโซเชียลมีเดียขององค์กรนั้น ๆ โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก ซึ่งหัวข้อที่คนรุ่นใหม่สนใจมากที่สุด ได้แก่ เรื่องความหลากหลายและการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม เงินเดือนและผลตอบแทน และโอกาสในการเติบโตในอาชีพการงาน

ประเด็นเหล่านี้ไม่ใช่เพียงดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ถือเป็นปัจจัยหลักที่คนรุ่นใหม่ใช้พิจารณาประกอบการตัดสินใจเลือกทำงานกับองค์กรใดองค์กรหนึ่งเลยทีเดียว

“องค์กรควรให้ความสำคัญกับการสื่อสารประเด็นดังกล่าวผ่านช่องทางออนไลน์ขององค์กรให้มากขึ้น เพราะคนรุ่นใหม่ใช้ช่องทางดิจิทัลในการหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณค่าวัฒนธรรมขององค์กรที่พวกเขาอยากร่วมงานด้วย นอกจากนี้ คนรุ่นใหม่ยังอยากรู้แนวคิดของผู้บริหารองค์กรทั้งด้านคุณค่าที่องค์กรยึดถือ

รวมถึงแผนธุรกิจในอนาคต องค์กรจึงควรสื่อสารประเด็นเหล่านี้ให้ชัดเจนในช่องทางออนไลน์เพื่อดึงดูดความสนใจและการมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่ และสะท้อนความมุ่งมั่นขององค์กรในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนช่วยเหลือพนักงาน พร้อมสร้างความเชื่อมั่นด้านโอกาสการเติบโตในหน้าที่การงานที่ดีในแต่ละอุตสาหกรรมในอนาคตด้วย”

เงินเดือนที่คาดหวังไม่น้อยกว่า 4 แสนบาทต่อปี

นายพาร์สันส์กล่าวอีกว่า สำหรับความคาดหวังด้านเงินเดือนผลสำรวจปีนี้เผยว่า เงินเดือนโดยเฉลี่ยที่คนรุ่นใหม่คาดหวังอยู่ที่ 466,379 บาทต่อปี ลดลง 3% จากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 479,000 บาทต่อปี โดยเงินเดือนที่นักศึกษาสาขาธุรกิจคาดหวังอยู่ที่ 441,195 บาทต่อปี ขณะที่เงินเดือนที่นักศึกษาสาขาวิศวกรรมคาดหวังในปีนี้อยู่ที่ 464,538 บาทต่อปี

ความแตกต่างของเงินเดือนที่คาดหวังระหว่างเพศชายและหญิงปีนี้อยู่ที่ 10% โดยเงินเดือนที่คนรุ่นใหม่เพศชายคาดหวังอยู่ที่ 484,303 บาทต่อปี ส่วนเงินเดือนที่คนรุ่นใหม่เพศหญิงคาดหวังอยู่ที่ 437,455 บาทต่อปี

5 อันดับองค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด

นอกจากนี้ ยังได้ทำการสำรวจประเมินและจัดอันดับองค์กรไทยและสากลจำนวน 128 ราย ซึ่งลิสต์จัดอันดับใช้ขั้นตอนการคัดเลือกและประเมินอิสระ โดยผลสำรวจที่ได้มาจากการจัดทำแบบสอบถามนักศึกษา 8,437 คนที่เรียนสาขาวิชาธุรกิจและพาณิชย์ วิศวกรรม ไอที วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ มนุษยศาสตร์/ศิลปศาสตร์/ครุศาสตร์ นิติศาสตร์ และสุขภาพ/การแพทย์ ใน 112 สาขาวิชาจากมหาวิทยาลัยและสถานศึกษา 23 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างเดือนกันยายน 2565-กุมภาพันธ์ 2566

โดยผู้ตอบแบบสำรวจได้ตอบคำถามเกี่ยวกับคุณค่าความต้องการด้านอาชีพ ความคาดหวัง และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน และจากผลสำรวจได้รับการประเมินพบว่า 5 อันดับองค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด มีดังนี้

สาขาวิชาธุรกิจ

    1. กูเกิล (Google)
    2. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GMM Grammy)
    3. ยูนิโคล่ (UNIQLO)
    4. ไลน์ คอร์ปอเรชั่น
    5. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สาขาวิศวกรรม

    1. ปตท.
    2. กูเกิล (Google)
    3. ปูนซิเมนต์ไทย
    4. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
    5. โตโยต้า