เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงปลายสัปดาห์

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่า โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือนสอดคล้องกับทิศทางเงินเยนที่ขยับแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ เองก็เผชิญแรงเทขาย หลังคำแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณในเชิงคุมเข้มมากนัก โดยระบุเพียงว่า เฟดจะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยและปรับลดงบดุลอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ เงินบาทยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิคในช่วงปลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะมีสถานะขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทยตลอดทั้งสัปดาห์ก็ตาม

สำหรับในวันศุกร์ (14 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 33.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.08 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 ก.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (17-21 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.80-34.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่ทิศทางการปรับตัวของสินทรัพย์เสี่ยง ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางญี่ปุ่น ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง ดัชนีราคานำเข้าและส่งออกเดือนมิ.ย. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนพ.ค. นอกจากนี้ ตลาดน่าจะรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ของจีนด้วยเช่นกัน

ส่วนดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงปลายสัปดาห์ จากแรงขายทำกำไรหุ้นธนาคาร โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,577.79 เพิ่มขึ้น 0.53% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นประมาณ 19.42% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 42,422.78 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 566.88 จุด เพิ่มขึ้น 1.42% จากสัปดาห์ก่อน

Advertisment

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ จากการทยอยประกาศงบการเงินของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 2/2560 ที่ออกมาดีเกินคาด โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารและกลุ่มสื่อสาร ประกอบกับมีแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณชะลอการปรับชึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งนี้ SET Index ได้ปรับลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ จากแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังมีแรงซื้อเพื่อเก็งกำไรงบการเงินในช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (17-21 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,565 และ 1,555 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,590 และ 1,600 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประกาศงบการเงินของบจ. สำหรับไตรมาส 2/2560 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญ ได้แก่ ดัชนีการผลิตของเฟดฟิลาเดเฟียเดือนก.ค. และจำนวนบ้านใหม่ที่กำลังก่อสร้างและที่จะก่อสร้างเดือนมิ.ย. ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ อาทิ ประกาศของธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่น และ CPI ของสหราชอาณาจักร

 

 

Advertisment

ที่มา มติชนออนไลน์