คนละครึ่ง เฟส 3 ยอดใช้จ่ายกว่า 2 แสนล้าน เฟส 4 ลงทะเบียน 1 มี.ค.2565 

คนละครึ่ง-1

สรุปยอดคนละครึ่ง เฟส 3 เพิ่มเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 2 แสนล้าน ประชาชนใช้สิทธิสะสมเฉียด 27 ล้านคน รอเคาะระฆังเฟส 4 ลงทะเบียน 1 มี.ค. 2565 

คนละครึ่ง เฟสที่ 3 มาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนได้ออกมาจับจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” หรือเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com

เป็นการใช้จ่ายแบบ Co-pay โดยรัฐช่วยจ่ายวันละ 150 บาทจำนวน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม เป็นจำนวนเงิน 4,500 บาท โดยจะโอนเงินและใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” กำลังจะถึงบทสรุปในวันสิ้นปีนี้ (31 ธ.ค.2564)

“คนละครึ่ง” กลายเป็นมาตรการสุดฮอตที่รัฐบาลประยุทธ์ได้รับเสียงชื่นชมไปอย่างมาก เนื่องจากเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าถึงผู้คนได้อย่างมาก

คนละครึ่ง มาตรการครองใจประชาชน

ย้อนกลับไป “คนละครึ่ง” มาตรการมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนได้ออกมาจับจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็น 1 ใน 3 โครงการ  ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในวันที่ 12 ต.ค. 2563 ประกอบด้วย

    1. มาตรการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน คนละ 1,500 บาท
    2. มาตรการคนละครึ่ง กระตุ้นค่าใช้จ่ายโดยประชาชนออกครึ่งหนึ่งและรัฐบาลออกอีกครึ่ง (Co-pay) ผ่านแอปเป๋าตังค์ จำนวน 3,000 บาท/คน
    3. มาตรการช้อปดีมีคืน กระตุ้นการบริโภคประชาชนประเทศในกลุ่มที่เสียภาษี โดยคืนภาษีสูงสุด 30,000 บาทมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าาการกระทรวงกลาโหม ระบุหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า “มาตรการทั้ง 3 โครงการมีเป้าหมายเพื่อดึงเงินเข้าสู่ระบบ เมื่อมีการใช้จ่าย มีการผลิต มีการจ้างงาน ทำให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้”

ขณะที่ คนละครึ่ง เฟส 1 เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์คนละครึ่ง ในวันที่ 16 ต.ค. 2563 และเริ่มใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2563 การเปิดลงทะเบียนในคนละครึ่ง เฟส 1 ได้รับการตอบรับประชาชนแห่ลงทะเบียนจำนวน ทำให้รัฐบาลต้องการลงทะเบียนในหลายรอบ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าโครงการคนละครึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม มีผู้เข้ามาลงทะเบียนครบจำนวน 10 ล้านคนตามที่ได้กำหนดไว้แล้ว

เดือน พ.ย. 2563 กระทรวงการคลัง ได้มีการพิจารณาโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 จะขยายเวลาโครงการไปจนถึงต้นปี 2564 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน พร้อมเพิ่มวงเงินให้กับผู้ที่เคยได้รับสิทธิอีก 1,500 บาท เนื่องจากยังมีงบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงิน ก้อนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม เหลืออยู่ราว 2.5 แสนล้านบาท

2 ธ.ค. 2563 ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบศ. ครั้งที่ 6/2563 มีมติเห็นชอบมาตรการ “คนละครึ่ง” เฟสที่ 2 โดยรูปแบบการดำเนินการเช่นเดียวกับระยะแรก แต่มาตรการระยะที่สองเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิเพิ่มเติมอีก 5 ล้านคน และได้รับวงเงินคนละ 3,500 บาท ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2564

ทั้งนี้ผู้ที่ถูกตัดสิทธิจากโครงการคนละครึ่ง เฟสที่1  เนื่องจากไม่ได้ใช้จ่ายภายใต้โครงการภายในวันที่กำหนดไว้หลังจากที่ลงทะเบียนรับสิทธิไปแล้วจะยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เฟส 2 ได้

นอกจากนี้ยัง “เพิ่มวงเงิน” ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟส  1 อีกคนละ 500 บาท โดยขยายระยะเวลาการใช้สิทธิมาตรการระยะที่หนึ่งออกไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 รวมวงเงินขออนุมัติทั้งสิ้น 22,500 ล้านบาท

กระทั่งเกิดการระบาดโควิด ทองหล่อคลัสเตอร์ โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 จึงเกิดขึ้น และผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี พร้อมอีก 3 โครงการ ในวันที่ 1 มิ.ย. 2564 ครอบคลุมประชาชนประมาณ 51 ล้านคน ซึ่งจะช่วยรักษากำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ จากการเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จำนวน 473,000 ล้านบาท

เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนวันแรกในวันที่ 14 มิ.ย. 2564 กระทั่งเมื่อในวันที่ 23 ต.ค. 2564 บนเว็บไซต์ของคนละครึ่งแจ้งว่า ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 เต็มจำนวน 28 ล้านสิทธิ์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คนละครึ่ง กลายเป็นมาตราการเติมกำลังซื้อกระตุ้นเศรษฐกิจ จาก 5 มาตรการรัฐในครึ่งปีหลัง 2564 ที่ครองใจประชาชนมากสุด ตามผลสำรวจของสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิตเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีมาตรการช่วยเหลือของรัฐในช่วงโควิด-19

คนละครึ่งเฟส 3 เม็ดเงินสะพัดกว่า 2 แสนล้าน

ตลอดการดำเนินการคนละครึ่ง เฟส 3 กระทรวงการคลังได้แจ้งจำนวนผู้ยอดการใช้จ่ายในวันศุกร์ของสัปดาห์ ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2564 คนละครึ่ง เฟสที่ 3 มีจำนวนผู้ใช้สิทธิครบ 4,500 บาท จำนวน 9.22 ล้านรายเท่านั้น

โครงการคนละครึ่ง เฟสที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 26.34 ล้านราย จากผู้ได้รับสิทธิจำนวน 27.98 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 221,109.8 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 112,482.5 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 108,627.3 ล้านบาท และมียอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทตามร้านค้า ได้แก่

  • ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 87,714.8 ล้านบาท
  • ร้านธงฟ้า 35,519 ล้านบาท
  • ร้าน OTOP 10,665.6 ล้านบาท
  • ร้านค้าทั่วไป 83,093.7 ล้านบาท
  • ร้านบริการ 3,851.8 ล้านบาท
  • กิจการขนส่งสาธารณะ 264.9 ล้านบาท
  • เงินประชาชนใช้จ่าย 1,867.9 ล้านบาท
  • รัฐร่วมจ่าย 1,740.4 ล้านบาท
ในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่ขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มล่าสุดขณะนี้ มีจำนวนประมาณ 82,000 ราย

เฟส 4 ลงทะเบียน 1 มีนาคม 2565


เมื่อโครงการคนละครึ่ง เฟสที่ 3 ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 2564 นี้ จะไม่มีการขยายเวลาในการใช้วงเงินประชาชนที่ใช้วงเงินไม่หมดตามที่กระทรวงการคลังกำหนดจะถูกดึงวงเงินกลับคืนไม่สามารถใช้ต่อได้ ไปถึง คนละครึ่ง เฟส 4 โดยโครงการคนละครึ่งเฟส 4 จะเริ่มดำเนินการให้เริ่มลงทะเบียนในวันที่ 1  มี.ค. 2565