โมเดอร์นาเข็มกระตุ้น สูตรผสม mRNA-1273.214 ยับยั้งโอมิครอน BA.4-BA.5

โมเดอร์นา
FILE PHOTO : CLEMENT MAHOUDEAU / AFP

วัคซีนโมเดอร์นาเข็มกระตุ้นสูตรผสมรุ่นใหม่ mRNA-1273.214 ให้ภูมิคุ้มกันยับยั้งเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4-BA.5 ในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรปัจจุบัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 โมเดอร์นาประกาศข้อมูลใหม่เพิ่มเติมจากการศึกษาทางคลินิกว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรผสมรุ่นใหม่ mRNA-1273.214 (สายพันธุ์ดั้งเดิมผสมกับโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1) ขนาด 50 ไมโครกรัม เมื่อให้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นที่ 4 ในอาสาสมัครที่เคยได้รับวัคซีนโมเดอร์นาสูตรปัจจุบันชุดหลัก 2 เข็ม (mRNA-1273, 100 ไมโครกรัม) และวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรปัจจุบัน (mRNA-1273, 50 ไมโครกรัม) 1 เข็ม จะได้การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันในการยับยั้งเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรปัจจุบัน

จากการวิเคราะห์ในอาสาสมัครที่ไม่เคยมีประวัติการติดเชื้อมาก่อน เวลา 1 เดือนภายหลังจากการได้รับวัคซีน พบว่า วัคซีน mRNA-1273.214 กระตุ้นให้ระดับภูมิคุ้มกันยับยั้งเชื้อโอมิครอน BA.4-BA.5 สูงขึ้นกว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรปัจจุบัน mRNA-1273 ที่ 1.69 เท่า (776 เทียบกับ 458) ซึ่งถือว่ามีนัยสำคัญทางสถิติ และเมื่อเทียบกับระดับภูมิก่อนการกระตุ้น พบว่า การได้รับวัคซีนสูตรผสม mRNA-1273.214 จะสามารถกระตุ้นภูมิต่อเชื้อ BA.4-BA.5 เพิ่มขึ้นมา 6.3 เท่า

ส่วนวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรปัจจุบัน mRNA-1273 สามารถกระตุ้นขึ้นมาได้ 3.5 เท่า โดยระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ BA.4-BA.5 ที่สูงกว่านั้นสามารถตรวจพบได้ในอาสาสมัครจากทั้งสองช่วงกลุ่มอายุ (18 ถึงน้อยกว่า 65 ปี และ 65 ปีขึ้นไป) รวมไปถึงในผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อโควิดมาก่อนด้วย

จากผลการศึกษาก่อนหน้านี้ ยังแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของวัคซีน mRNA-1273.214 ที่เหนือกว่าเข็มกระตุ้นสูตรปัจจุบันในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันยับยั้งเชื้อโควิดสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่เคยมีการระบาดมาก่อนหน้านี้ด้วย ได้แก่ สายพันธุ์ดั้งเดิม อัลฟา เดลต้า แกมมา และ โอมิครอน BA.1

นอกจากนี้ ทางบริษัทยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสูตรไปพร้อม ๆ กัน คือ mRNA-1273.222 ซึ่งเป็นสูตรผสมระหว่างสายพันธุ์ดั้งเดิมกับโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4-BA.5 ตามคำแนะนำของทางองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา

ดังนั้นโดยสรุปแล้วในขณะนี้ทางโมเดอร์นาจะมีวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับรับมือกับไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนสำหรับฤดูใบไม้ร่วงที่จะมาถึงจำนวนทั้งสิ้น 2 สูตร ได้แก่ mRNA-1273.214 และ mRNA-1273.222 ซึ่งแต่ละสูตรนั้นพัฒนาขึ้นตามแนวทางและวัตถุประสงค์ความต้องการใช้งานที่แตกต่างในแต่ละประเทศ โดยในส่วนของวัคซีนเข็มกระตุ้น mRNA-1273.214 ขนาด 50 ไมโครกรัม ที่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิที่สูงกว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรปัจจุบัน และผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งหมดที่บริษัทตั้งไว้ก่อนทำการศึกษา

รวมทั้งมีความปลอดภัยที่ยอมรับได้อย่างดี ทางโมเดอร์นาเองได้ทำการยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนกับทางสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย เรียบร้อยแล้ว ส่วนประเทศอื่น ๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้

Stéphane Bancel ซึ่งดำรงตำแหน่ง Chief Executive Officer ของโมเดอร์นา ได้กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า วัคซีนสูตรผสม mRNA-1273.214 ที่เราพัฒนาขึ้นมาใหม่นั้นมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรปัจจุบัน และมีความสามารถในการกระตุ้นภูมิยับยั้งไวรัสสายพันธุ์ที่น่ากังวลชนิดต่าง ๆ ที่เราทำการทดสอบ”

“รวมถึงสายพันธุ์ BA.4.5 และ BA.1 ได้ในระดับที่สูงกว่า อันเป็นการยืนยันได้ดีถึงคุณสมบัติที่เหนือกว่าของวัคซีนในรูปแบบสูตรผสมทั้งในแง่ของความครอบคลุมเชื้อไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ และความทนทานของการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน”

“ขณะนี้เรากําลังทำงานร่วมกันกับทางหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อทำการขอขึ้นทะเบียนวัคซีนสูตรผสมสูตรใหม่ทั้ง 2 ชนิด ได้แก่ mRNA-1273.214 และ mRNA-1273.222 ซึ่งอาจจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับ วัตถุประสงค์ความต้องการใช้งาน ข้อมูลทางคลินิกที่มี และความเร่งด่วนในการเริ่มต้นแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในประชากรกลุ่มเสี่ยงสำหรับฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังมาถึง ที่มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน”