“ปิยบุตร” เตือนตำรวจ อย่าเป็นเครื่องจักรสังหาร

วันที่ 16 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แถลงข่าว ความเห็นต่อการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในกทม. รวมถึงการดำเนินคดีกรณี “ขบวนเสด็จ” ที่อาคารไทยซัมมิท ชั้น 5 จากนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณ 5-6 นาย

นำโดย พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ ผกก.สน.มักกะสัน นำคำสั่งขอตรวจค้นพื้นที่การแถลงข่าว อาศัยประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ฉบับที่ 3 ประกอบคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 36/2563 มีอำนาจตรวจค้นอาคาร สิ่งปลูกสร้าง หรือ สิ่งกีดขวางใดๆ ตามความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยมี น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า สอบถามถึงเหตุผลในการเข้าตรวจค้น

จากนั้น น.ส.พรรณิการ์ ได้เชิญให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจค้นในสำนักงานและให้ พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ เข้าไปพูดคุยกับนายปิยบุตร บริเวณที่แถลงข่าว แต่ พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ปฏิเสธโดยระบุว่า “ไม่ได้มาร่วมแถลงข่าว” อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบในช่วงเวลาหนึ่ง

ขณะที่นายปิยบุตร กล่าวว่า “ท่านเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ท่านรู้อยู่แก่ใจ กำลังทำอะไรอยู่ ตัวท่านเองผมเชื่อว่าท่านเคยประสบปัญหาความไม่เป็นธรรม ทำไมท่านไม่มาอยู่กับประชาชน ทำไมไม่มาร่วมสร้างประชาธิปไตย ระบบจะได้ยุติธรรมมากขึ้น ไม่ต้องรีดไถประชาชน มาซื้ออาวุธ”

“ท่านเป็นเหยื่อเหมือนกับผมแหละครับ ท่านเคยถูกระบอบนี้รังแก ท่านจะไปรับใช้ระบอบนี้ทำไม เผด็จการไม่มีวันจะอยู่จนชั่วฟ้าดินสลาย ท่านอยากจะเป็นวีรบุรุษ หรือเป็นแค่กลไกปราบปรามประชาชน ท่านไม่ต่างจากผมหรอกครับ ถ้าท่านไปอยู่แบบนั้น ท่านก็ต้องทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องแบบนี้”

Advertisment

“ขณะนี้อยู่ในช่วงท้ายๆ ระบอบเผด็จการ ออกจากการเป็นเครื่องจักรสังหาร แล้วมาคิดแบบมนุษย์ คิดแบบจิตวิญญาณเสรีแบบมนุษย์ว่าทำถูกหรือผิด เยาวชนของชาติ อยากให้ตระหนักสักนิดว่าทำไปแล้วผลร้ายคืออะไร ประเทศไทยไม่ควรย้อนกลับไปอดีต”

จากนั้นสื่อมวลชนได้เข้ามาสอบถามถึงเหตุผลที่เข้ามาตรวจค้นที่ทำการคณะก้าวหน้า ทำให้ นายปิยบุตร ได้เดินเข้ามาร่วมพูดคุย นายปิยบุตร กล่าวตอนหนึ่งกับ พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ว่า…

“ในท้ายที่สุดบ้านเมืองจะเดินแบบนี้ไปเรื่อยๆ หรือ พอรัฐบาลสั่ง ผู้บังคับบัญชาคนหนึ่งสั่งอะไรแล้วต้องทำตามหมด การปฏิบัติหน้าที่ตำรวจไม่ใช่หุ่นยนต์ เกิดวันนี้เขาสั่งให้ท่านไปยิงคนตายท่านต้องทำหรือ คำสั่งที่ผิดกฎหมายท่านก็ต้องไม่ทำ พุดตามตรงไปตรงมานะ ท่านเป็นมนุษย์ เป็นปุถุชน แต่ผู้บังคับบัญชาชองท่าน นายของท่าน กำลังทำให้ท่านสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปนะ ตรงสันติสัมปชัญญะ วิจารณญาณจำเป็นต้องปิดหมด ท่านจะพูดอยู่คำเดียวว่าต้องทำตามหน้าที่ที่นายสั่ง ถ้าทำแบบนี้ท่านจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่จะกลายเป็นเครื่องจักรสังหาร เครื่องจักรที่ทำตาม”

ทำให้ พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ แทรกขึ้นว่า “ไม่มีสังหารแน่นอน ไม่ได้ฆ่าคนครับอาจารย์”

Advertisment

นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า “เป็นการเปรียบเทียบ แต่ท่านก็จะไม่ต่างอะไรกับน็อต โรบอทหุ่นยนต์กลไก แต่ท่านเป็นมนุษย์ มีเลือดเนื้อ มีชีวิตเหมือนกัน คิดว่าเดินทางมาถึงวันนี้เรารู้แล้วว่าอะไรถูกอะไรผิด ขอจริงๆ เราก็รู้ว่า ต้นปีไม่แรงขนาดนี้ แต่เพราะที่ทำกันอย่างนี้มันถึงแรงขึ้น แล้วเรามีบทเรียนแบบนี้ไม่รู้กี่ยุคกี่สมัย”

พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ กล่าวว่า “ทำตามหน้าที่และความเรียบร้อย เดี๋ยวจะทำบันทึกถึงผู้บังคับบัญชา โดยมาดูความเรียบร้อยทั่วไป ในเบื้องต้นก็เหมือนกับมาเจอผู้สื่อข่าวและเจออาจารย์ปิยบุตร”

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอึดอัดกับการทำหน้าที่หรือไม่ กล่าวว่า “ไม่อึดอัดหรอกครับ หน้าที่มีก็ต้องทำ อาจารย์ปิยบุตรก็ต้องเจอ เรามีหน้าที่อะไรก็ทำตามหน้าที่ ตอนนี้เท่าที่ผมเห็นยังไม่พบการกระทำความผิด”

เมื่อถามว่ากรณีพรรคเพื่อไทยที่จะมีการแถลงข่าวเช่นเดียวกันต้องไปตรวจสอบหรือไม่ … กล่าวว่า “ต้องไปตามผู้บังคับบัญชานะ ผมเป็นแค่ตำรวจตัวเล็กๆ กำกับท้องที่ สน.มักกะสันเท่านั้น”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ และนายปิยบุตร ได้ขึ้นไปหารือกับนายปิยบุตร ที่ทำการคณะก้าวหน้าชั้น 8 อาคารไทยซัมมิท

จากนั้นเวนลา 16.20 น. นายปิยบุตร แถลงภายหลังการหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หลังจากได้พูดคุยทำความเข้าใจกันได้ข้อยุติว่า ผกกอาศัยอำนาจตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และประกาศต่างๆ เพื่อตรวจค้นว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย หรือมีสิ่งของผิดกฎหมายหรือไม่ เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และอ่านบันทึกให้ตนทราบว่าไม่พบความผิดกฎหมาย ตนได้ลงนาม โดยไม่มีการดำเนินความผิดหรือร้องทุกข์กล่าวโทษใด ๆ

“ผมเปิดประตูแสดงความบริสุทธิ์ใจ ท่านอยากจะมาฟังเมื่อไหร่ก็มา สิ่งที่เรานำเสนอไปก็เพราะปรารถนาดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองที่จะฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน” นายปิยบุตร กล่าว

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ได้มีกำหนดการแถลงข่าวของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยโฆษกพรรค นัดแถลงข่าว กรณีเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ และสถานการณ์การเมือง ได้ยกเลิกกำหนดการทันที่