“อนุทิน” เคาะแผนฟื้นฟู ขสมก. ขอพักหนี้แสนล้าน 7 ปี เตรียมเสนอ ครม.

“อนุทิน” เคาะแผนฟื้นฟู ขสมก. ชงบอร์ด ขสมก.-ครม. ไม่เกิน ต.ค.นี้ ย้ำแผนใหม่ ขสมก. ต้องอยู่ได้ แย้มพักหนี้ยาว 7 ปี หรือผลประกอบการเป็นบวก ด้าน “ไตรศุลี” เผย “ขนส่ง-ขสมก.” ชงเสนอ ครม. 7 ประเด็น รื้อเส้นทางรถเมล์-ค่าโดยสาร 30 บาท-ให้อำนาจ ขบ.พิจารณาใบอนุญาต-เช่ารถใหม่-จัดงบปี’65 เออร์ลี่รีไทร์-ขอ PSO 7 ปี

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2563 ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) (ฉบับปรับปรุงใหม่) มีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูฉบับใหม่ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

เสนอบอร์ด ขสมก. เคาะ 22 ก.ย.นี้

โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะนำแผนฟื้นฟูดังกล่าวเสนอให้คณะกรรมการ ขสมก. (บอร์ด ขสมก.) ภายในวันที่ 22 ก.ย.นี้ และคาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ และจะมีผลทันที

“แผนฟื้นฟูครั้งนี้จะเป็นการรีเซ็ตและหยุดเลือด เพื่อให้ ขสมก.ดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งเจ้าหนี้ของ ขสมก.ก็คือกระทรวงการคลัง ที่ค้ำประกันหนี้ให้ 100% โดยจะขอให้มีการพักชำระหนี้ทั้งหมดไว้ก่อน และจะเพิ่มต้นทยอยชำระในส่วนของเงินต้นภายหลังจากที่ ขสมก.มีผลประกอบการเป็นบวกแล้ว” นายอนุทินกล่าว

“คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 7 ปีนับจากปีนี้ และสิ่งที่ ขสมก.จะได้รับคือ จะเป็นการปลดภาระหนี้และดอกเบี้ย และจะสามารถวัดได้ว่า ประสิทธิภาพการทำงานของ ขสมก.จะเป็นอย่างไรต่อไป และจะรู้หมู่รู้จ่าว่าจะสามารถทำกำไรได้หรือไม่ หากฟื้นฟูแล้วยังทำกำไรไม่ได้อีก ผู้บริหารก็อยู่ไม่ได้ แล้วอาจจะพิจารณาช่องทางการแปรสภาพในอนาคต”

Advertisment

รองนายกฯ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการลงทุนต่างๆ โดยเฉพาะการจัดหารถเมล์ใหม่ จำนวน 2,511 คัน จะต้องดูศักยภาพก่อน แต่ต่อจากนี้ไปภาครัฐ และ ขสมก.จะไม่ต้องลงทุนอะไรมาก แต่จะใช้วิธีเปิดให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานเดินรถ ซึ่งเงินลงทุนก็ให้เป็นภาระของเอกชนไป ไม่อย่างนั้น จะกลายเป็นภาระกับ ขสมก. อีก แต่หลักการของการจัดหารถใหม่จะต้องเป็นรถปรับอากาศเท่านั้น และจะต้องไม่เป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน

อนุทิน ชาญวีรกูล
อนุทิน ชาญวีรกูล

ชง “ขนส่ง-ขสมก.” เสนอ ครม. 7 ประเด็น

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมโดยกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) นำเสนอ ครม.เพื่อให้ความเห็นชอบ

1. แนวทางการปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง โดยมีโครงข่ายหลัก จำนวน 162 เส้นทาง และให้ ขสมก.บริหารจัดการเดินรถตามแผนฟื้นฟูฉบับปรับปรุงใหม่ ทั้งนี้  ให้ ขบ. พิจารณาปรับปรุงเส้นทางให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ให้ครอบคลุมพื้นที่และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งในอนาคตต่อไป

2. ให้ ขสมก. มีสิทธิ์ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งในเส้นทางที่มีการกำหนดใหม่ หรือเส้นทางเดินรถที่มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ก่อนผู้ประกอบการขนส่งรายอื่น ในกรณีที่ ขสมก.ไม่ประสงค์เดินรถในเส้นทางดังกล่าว ให้ ขบ.โดยอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ประกาศรับคำขอเป็นการทั่วไป

Advertisment

3. นโยบายการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ให้ ขสมก.จัดเก็บเป็นอัตราเดียว (Single price) ในอัตรา 30 บาท / คน / วัน / ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว โดยในอนาคตอาจปรับเพิ่มหรือลดอัตราค่าโดยสารเพื่อให้เหมาะสม กับสถานการณ์และภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ขณะที่ ขสมก. จะเสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติ:

1. การเสนอขอทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2562 ที่เห็นชอบในหลักการของแผนฟื้นฟูกิจการฉบับเดิมเป็นเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการฉบับปรับปรุงใหม่

โดยให้ ขสมก. เช่ารถโดยสารไฟฟ้า (EV) จำนวน 2,511 คัน และจ้างเอกชน เดินรถให้บริการ เป็นรถโดยสารไฟฟ้า (EV) หรือรถโดยสาร NGV จำนวน 1,500 คัน

2. อนุมัติให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สำหรับโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด

3. อนุมัติในหลักการให้รัฐบาลรับภาระหนี้สินของ ขสมก. โดยจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ของ ขสมก. เมื่อ Ebitda เป็นบวก ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2563 เป็นต้นไป รัฐบาลรับภาระชำระดอกเบี้ยของ ขสมก. แล้ว

ทั้งนี้ ยอดหนี้คงค้างที่รัฐบาลรับภาระจะเป็นยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 30 ก.ย. 2564 กรณี Ebitda เป็นบวกแค่ 1 หรือ 2 ปี แล้วกลับมาเป็นลบ ในหลักการปีถัดไป รัฐจะไม่ชำระหนี้เงินต้นให้

4. อนุมัติหลักการเพื่อขอสนับสนุนเงินอุดหนุนจากภาครัฐ จำนวน 7 ปี โดยเป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม มติที่ประชุมดังกล่าว ยังต้องผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ก่อนเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติต่อไป