โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โชว์ความสำเร็จในการใช้พลาสมาจากผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาหายแล้ว นำไปรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการวิกฤตจนหายเป็นปกติ เป็นครั้งแรกของภาคใต้ พร้อมเชิญชวนผู้ป่วยที่หายเป็นปกติแล้ว ร่วมบริจาคพลาสมา ณ คลังเลือด โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อช่วยชีวิตเพื่อนผู้ป่วยได้มีโอกาสการรักษาและรอดชีวิตจากโควิด-19
“รศ.นพ.ศรัญญู ชูศรี” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่าทีมแพทย์โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ประสบความสำเร็จในการใช้พลาสมาหรือน้ำเหลืองจากผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 ที่ได้รับการรักษาหายแล้วนำไปรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการวิกฤตจนหายเป็นปกติ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของภาคใต้ โดยผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นเพศชาย ที่ถูกส่งตัวต่อมาจากจังหวัดนราธิวาส และได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสสูตรมาตรฐานคือฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) มาแล้ว 3 วันแต่อาการไม่ดีขึ้น
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
“หลังจากที่ส่งต่อมายังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ผู้ป่วยมีค่าออกซิเจนในเลือด และค่าหัวใจต่ำลง ภาวะหายใจล้มเหลว ต้องใส่ท่อหายใจ คณะแพทย์ผู้ทำการรักษาจึงพิจารณาให้การรักษาเสริม โดยใช้พลาสมาที่ได้รับบริจาคจากผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาโควิด-19 จากโรงพยาบาล โดยทีมแพทย์ได้ทำการรักษาให้พลาสมาครั้งละ 200 ซีซี จำนวน 2 ครั้ง และผลปรากฏว่าในระยะเวลา 3-4 วัน ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น โดยเฉพาะค่าการหายใจและค่าหัวใจดีขึ้น ภาวะการอักเสบต่าง ๆ ลดลง ค่าไวรัสที่คอหอยและในเสมหะมีปริมาณน้อยมากจนตรวจวัดไม่ได้ จนสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้และอาการปอดอักเสบดีขึ้น จนปัจจุบันผู้ป่วยหายเป็นปกติ และสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว นับเป็นผู้ป่วยรายสุดท้ายของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์”
“รศ.นพ.ศรัญญู” กล่าวต่อว่าการรักษาด้วยพลาสมาเป็นวิธีการรักษาทางเลือก ทีมแพทย์ต้องมีการศึกษาอย่างเป็นระบบ มีหลักการในการรักษา โดยต้องพิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งไม่ใช่ว่าผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคน จะสามารถรักษาด้วยพลาสมาแล้วจะหายเป็นปกติได้ทุกราย ซึ่งตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาด ทางโรงพยาบาลได้ทำการรักษาผู้ป่วยโควิดไปแล้ว 30 ราย โดยส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดเป็นผู้ป่วยหรือคนไข้อาการวิกฤต ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหาย อยู่ระหว่างรอพักฟื้น หรืออาการไม่หนักมากแล้ว จะถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ สาขา 2 จังหวัดสงขลา
“ปัจจุบันมีผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับการรักษาหายเป็นปกติแล้ว ติดต่อมาเพื่อบริจาคพลาสมาหลายราย โดยสามารถบริจาคได้ที่คลังเลือด โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งผู้บริจาคต้องได้รับการตรวจว่าไม่มีการติดเชื้อที่สามารถติดต่อทางการให้เลือด โดยบริจาคพลาสมาในแต่ละครั้งได้ในปริมาณ 400-600 ซีซี และสามารถบริจาคซ้ำได้อีกหากยังมีภูมิคุ้มกันเพียงพอ เพื่อเป็นการช่วยชีวิตผู้ป่วยให้ได้มีโอกาสการรักษาและรอดชีวิตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”