เปิดรายชื่อ 140 รพ. มีระบบดูแลผู้ป่วยโควิดกักตัวที่บ้าน ผ่านไลน์ฟรี

ภาพ: NIA

เช็คที่นี่ 140 โรงพยาบาล มีระบบตามอาการผู้ป่วยโควิดกักตัวที่บ้านผ่านไลน์ พัฒนาโดย Dietz ร่วม NIA และสมาคมเฮลธ์เทค เพื่อให้ได้รับการดูแลจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด

วันที่ 9 สิงหาคม 2564 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดระบบมอนิเตอร์อาการผู้ป่วยโควิดสีเขียว รักษาตนเองที่บ้าน ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ official account (LineOA) ที่ร่วมมือกับสมาคมเฮลธ์เทคไทย สนับสนุนบริษัท พรีซีชั่น ไดเอทซ์ จำกัด (Dietz) ในการพัฒนา “Covid-19 Home Isolation Telemedicine” เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ระบบดังกล่าวได้นำร่องใช้จริงแล้วในโรงพยาบาลพื้นที่ต่างจังหวัด และคาดว่าอาจจะมีผู้ป่วยที่ได้รับการช่วยเหลือผ่านระบบมากกว่า 50,000 คน การใช้งานง่าย เพียงประชาชนแอดไลน์ของโรงพยาบาลในพื้นที่ตนเอง จากนั้นระบบจะทำการเชื่อมต่อข้อมูลของผู้ใช้งานไปยังศูนย์บริการของทางโรงพยาบาล

“ประชาชาติธุรกิจ” ตรวจสอบข้อมูลล่าสุด ตอนนี้มีทั้งหมด 140 โรงพยาบาลที่มี Covid-19 Home Isolation Telemedicine เช่น โรงพยาบาลบ้านโป่ง โรงพยาบาลหนองใหญ่ โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาล ไพศาลี โรงพยาบาลหนองเสือ โรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงพยาบาลพระปกเกล้า โรงพยาบาลยี่งอ โรงพยาบาลศรีสะเกษ โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ สามารถเช็ครายชื่อโรงพยาบาลเพิ่มเติม เพื่อจะได้แอดไลน์ของโรงพยาบาล และได้รับบริการโดยคลิ๊กที่ลิงค์นี้ Dietz Covid Tracker

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ NIA

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้มีผู้ป่วยติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งมีระบบรองรับและเตียงเพื่อการรักษาผู้ป่วยที่ไม่เพียงพอ ทำให้ภาครัฐได้ออกมาตรการอนุญาตให้โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล สามารถดูแลผู้ป่วยภายใต้ระบบการแยกกักตัวที่บ้าน หรือ home isolation สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการไม่มาก หรืออยู่ในระดับสีเขียว

เพื่อสำรองเตียงให้กับผู้ป่วยที่เข้าข่ายอาการหนัก แต่มาตรการดังกล่าวส่งผลให้หลายภาคส่วนกังวลถึงแนวทางปฏิบัติตัว และการดูแลผู้ป่วยที่ต้องกักตัวที่บ้านของโรงพยาบาล รวมถึงผู้ป่วยเองก็เกิดความกังวลเช่นเดียวกัน

ดังนั้น เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่อาการไม่หนักให้ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทางทีมแพทย์ ทาง NIA จึงได้สนับสนุน สมาคมเฮลธ์เทคไทย และบริษัท พรีซีชั่น ไดเอทซ์ จำกัด สร้างแพลตฟอร์ม Covid-19 Home Isolation Telemedicine ซึ่งเป็นระบบมอนิเตอร์อาการสำหรับผู้ป่วยที่ต้องกักตัวเองที่บ้านผ่านแอปพลิเคชันไลน์ official account (LineOA)

อีกทั้งยังเป็นระบบการเฝ้าสังเกตอาการ ให้คำแนะนำกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 หากพบว่าผู้ป่วยเริ่มมีอาการหนักทางโรงพยาบาลจะส่งรถพยาบาลไปรับเพื่อเข้าสู่ชั้นตอนการรักษา รวมถึงการดูแลช่วยเหลือในส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ผู้ป่วย

“ผมเชื่อว่าจะช่วยสร้างความความมั่นใจให้แก่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 และเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ระบบสาธารณสุขไทยในช่วงที่ทั่วประเทศกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ในการพัฒนาระบบดังกล่าวทางกลุ่มสตาร์ทอัพผู้พัฒนาระบบได้มีการเข้าไปติดตั้งระบบให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัดเรียบร้อยแล้ว”

“การส่งเสริมสตาร์ทอัพด้านเฮลธ์เทคให้สามารถสร้างนวัตกรรม หรือแพลตฟอร์มสำหรับการบริการสุขภาพทางไกลขึ้นมารองรับความต้องการใช้งานของระบบสาธารณสุขเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ NIA ได้ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง โดยตระหนักดีว่านวัตกรรมคือเครื่องมือสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนและทีมแพทย์ได้เป็นวงกว้าง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ”

พงษ์ชัย เพชรสังหาร กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง Dietz.asia

นายพงษ์ชัย เพชรสังหาร กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท พรีซีชันไดเอทซ์ จำกัด หรือ Dietz.asia กล่าวว่า ตนและทีมงานได้ต่อยอดระบบโควิดแทร็กเกอร์ (Covid tracker) ที่ใช้สังเกตอาการผู้ป่วยในโรงพยาบาลสนาม มาเป็นระบบเป็น Covid-19 Home Isolation Telemedicine เพื่อรองรับมาตรการกักตัวที่บ้านสำหรับผู้ป่วยสีเขียวหรือผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก เพื่อเอื้อให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสามารถติดต่อ เช็คอาการ และคอยให้คำปรึกษากับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างใกล้ชิด

ขณะนี้ได้มีการเข้าไปติดตั้งระบบให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัดแล้วกว่า 140 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการกระจายนวัตกรรมไปยังพื้นที่อื่น ๆ ให้ประชาชนได้เข้าถึงระบบสุขภาพทางไกลที่ช่วยให้การรักษา หรือกระบวนการกักตัวของผู้ป่วยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

“หลังจากแอดไลน์ของโรงพยาบาลแล้ว ระหว่างกักตัวที่บ้านจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อตรวจเช็คอาการประมาณ 2 ครั้งต่อวัน ซึ่งผู้ป่วยจะต้องทำการวัดไข้ วัดค่าออกซิเจนในเลือด ด้วยอุปกรณ์ที่โรงพยาบาลจัดส่งไปให้ และรายงานผลเบื้องต้นผ่านไลน์ หากผู้ป่วยมีข้อสงสัย หรือกังวลเกี่ยวกับอาการยังสามารถวีดิโอคอลสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา และหากระหว่างการกักตัวอยู่บ้านแล้วพบว่าอาการของผู้ป่วยเริ่มแย่ลงทางโรงพยาบาลจะจัดส่งไปรับตัวเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาทันที”

สำหรับประสิทธิภาพการทำงานของ Covid-19 Home Isolation Telemedicine พบว่า ระบบสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่สามารถสอบถามอาการ และให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยที่ต้องกลับไปดูแลตัวเองที่บ้านได้อย่างครอบคลุม