เพื่อให้ไทยใช้โอกาสก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมถุงมือยางธรรมชาติของโลก รัฐบาลควรมี 5 ยุทธศาสตร์ โดยอาศัยจุดเเข็งวัตถุดิบ ประกอบด้วย
1.ยุทธศาสตร์การผลิตสู่มาตรฐาน FSC มุ่งสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนยางพาราทำสวนยางพาราแบบ FSC (Forest Stewardship Council)
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
2.ยุทธศาสตร์การแปรรูปถุงมือยางธรรมชาติสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ผู้ประกอบการ/โรงงานถุงมือยางธรรมชาติของไทย ต้องร่วมมือสร้างคลัสเตอร์ตลาดถุงมือยางธรรมชาติ สร้างราคาและตลาดน้ำยางข้น FSC เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พัฒนาไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
3. ยุทธศาสตร์การตลาด วิเคราะห์ตลาดถุงมือยางธรรมชาติเชิงลึก สร้างการรับรู้ข้อมูลถุงมือยางธรรมชาติของไทย ในตลาดใหม่ เช่น อินเดีย
4.ยุทธศาสตร์การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสมัยใหม่ ตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ สร้างมูลค่าเพิ่มให้ถุงมือยางธรรมชาติ เป็นพัฒนา “ถุงมือยางรักษ์โลก” และต้องสอดคล้องกับมาตรฐานตลาดผู้นำเข้า
และข้อสุดท้าย 5.ยุทธศาสตร์อื่น ๆ เช่น ส่งเสริมการใช้ถุงมือยางธรรมชาติของหน่วยงานสาธารณสุขในประเทศ ทุนสนับสนุนจากภาครัฐสู่ผู้ประกอบการ SMEs นำงานวิจัยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ และส่งเสริมมีมาตรการด้านภาษี เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs เข้าสู่อุตสาหกรรมถุงมือยางธรรมชาติ