IRPCทุ่มงบนวัตกรรม1,700ล. ผนึก”PTT”ผุดศูนย์ฝึกแรงงาน

IRPC ทุ่มงบฯ 1,700 ล้านบาทยกเครื่องนวัตกรรม IRPC 4.0 ตั้งเป้าปี”63 ขึ้นแท่นผู้นำบริษัทดิจิทัลปิโตรเคมีโลก พร้อมร่วมทุน ปตท.สร้างศูนย์ฝึกพัฒนาโรงกลั่นป้อน EEC

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) IRPC เปิดเผยถึงแนวทางการลงทุนตามแผน IRPC 4.0 ซึ่งใช้งบประมาณลงทุน 1,700 ล้านบาท ดำเนินการใน 29 โครงการ ว่า ล่าสุดดำเนินการ 2 โครงการหลักภายในแผน 29 โครงการแล้วเสร็จ คือ ระบบ “EKONS” เป็นนวัตกรรมแสดงผลตัวชี้วัดสำคัญในการกำกับดูแลโรงงานในรูปแบบคล้ายแผงหน้าปัดรถยนต์ (dashboard) แสดงค่าเป็นจำนวนเงินเพื่อช่วยให้บุคลากรสามารถปรับเปลี่ยนค่าควบคุมต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมแม่นยำที่สุด และระบบวิเคราะห์และบริหารจัดการข้อมูล (spend cube analytics) เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ซึ่งจะสามารถลดค่าใช้จ่ายให้บริษัท คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 20 เดือน และจะสร้างมูลค่าเพิ่มไม่ต่ำกว่า 3,300 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าปี 2563 ขึ้นแท่นเป็นผู้นำด้านดิจิทัลในกลุ่มบริษัทปิโตรเคมีทั้งเอเชียและระดับโลกในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทยังร่วมกับบริษัท ปตท. (PTT) สร้างศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมี บนพื้นที่ไออาร์พีซี จ.ระยอง ลงทุน 1,500-2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เนื่องจากอนาคตบุคลากรด้านปิโตรเคมีไทยขาดแคลน ในขณะเดียวกันกลุ่ม ปตท.ยังสร้างศูนย์เรียนรู้ด้านพลังงานทดแทนในพื้นที่เดียวกันนี้ โดยใช้งบฯลงทุนกว่า 100 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างเสร็จใน 2 ปีข้างหน้า

“ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมกับที่ปรึกษาวางแผนยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัล จัดทำแนวทางประยุกต์นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับทุกกระบวนการทำงานในองค์กร IRPC 4.0 อยู่ภายใต้แผน GDP ในมิติ power of digital เรียกได้ว่าเราเอาระบบดิจิทัลและนวัตกรรมทันสมัยต่าง ๆ เข้ามาร่วมใช้ในทุกขั้นตอนธุรกิจ ในอีก 2 ปีข้างหน้าจะเห็นการพลิกโฉมธุรกิจของ IRPC เป็นผู้นำด้านดิจิทัลของกลุ่มบริษัทปิโตรเคมีเอเชียจนถึงระดับโลก ส่วนแผนร่วมทุนกับ ปตท.นั้นบริษัทมองว่าอุตสาหกรรมจะเติบโตได้เราต้องสร้างคนให้ทัน ถ้าไม่ทำอะไรเลยต่อไปอุตสาหกรรมนี้จะขาดแคลนคนมาก เราสร้างพื้นที่ 40 ไร่ให้นักศึกษามาเป็นแหล่งเรียนรู้จริงด้านพลังงาน เพื่อรองรับอีอีซี คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า”

ทางบริษัทคงเป้าหมายกำไรก่อนหักภาษี (EBITDA) เติบโตปีละ 10-15% จนถึงปี”63 อยู่ที่ 29,000 ล้านบาท จากปีก่อน 20,000 ล้านบาท โดยจะดำเนินงานตามกลยุทธ์ Power of Growth โปรแกรม GALAXY MARS และ Everest Forever เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและรักษาจุดแข็งตามกลยุทธ์ EVEREST

Advertisment