“ซีพีเอฟ” คว้ารางวัลด้านการจัดการแรงงานยอดเยี่ยมของประเทศ Thailand Labour Management Excellence Award 2017

โรงเพาะฟักลูกกุ้ง CPF คว้าถ้วยรางวัลพระราชทานสถานประกอบกิจการที่บริหารจัดการด้านแรงงานยอดเยี่ยม พร้อมมีสถานประกอบกิจการซีพีเอฟอีก 27 แห่งเข้ารับรางวัลด้านบริหารจัดการด้านแรงงานดีเด่นระดับประเทศ จากกระทรวงแรงงาน

นายเปรมศักดิ์ วนัชสุนทร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า กิจการโรงเพาะฟักลูกกุ้ง ภาคตะวันออก 2 จังหวัดตราดของซีพีเอฟ เป็น 1 ในสถานประกอบกิจการของไทยสามารถคว้ารางวัลเกียรติยศสถานประกอบการที่บริหารจัดการด้านแรงงานยอดเยี่ยม จากกระทรวงแรงงาน และจะเข้ารับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงาน Thailand Labour Management Excellence Award 2017 ในงานนี้ ยังมีโรงงานผลิตอาหารสัตว์ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เข้ารับรางวัลเชิดชูเกียรติ สถานประกอบการที่ธำรงรักษาระบบมาตรฐานแรงงานไทยติดต่อกันต่อเนื่อง 5 ปีขึ้นไป และสถานประกอบกิจการซีพีเอฟ 26 แห่งได้รับประกาศนียบัตรสถานประกอบการต้นแบบดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานปี 2560 และสถานประกอบกิจการอีก 3 แห่ง เข้ารับประกาศนียบัตรสถานประกอบการต้นแบบดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน

“การได้รับรางวัลพระราชทานในครั้งนี้ นำความภูมิใจให้กับคณะผู้บริหารและพนักงานซีพีเอฟทุกคน และสะท้อนถึง ความมุ่งมั่นขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับบุคลากร ซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการบริหารจัดการด้านแรงงานในด้านต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานสากล” นายเปรมศักดิ์กล่าว

กระทรวงแรงงานพิจารณามอบรางวัลแก่กิจการโรงเพาะฟักลูกกุ้ง ภาคตะวันออก 2 เพราะเป็นกิจการที่การได้รับรองมาตรฐานแรงงานไทย(มรท.8001-2553) ในระดับสมบูรณ์สูงสุด ตั้งแต่ปี 2550 และสามารถรักษาการดำเนินงานตามมาตรฐานแรงงานไทยได้อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 ปีติดต่อกัน รวมทั้งยังเป็นสถานประกอบกิจการที่ได้รับรางวัลสถานประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย และด้านแรงงานสัมพันธ์ระดับประเทศต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปีติดต่อกันอีกด้วย เป็นผลให้โรงเพาะฟักลูกกุ้ง ภาคตะวันออก 2 สามารถคว้ารางวัลเกียรติยศด้านการบริหารจัดการด้านแรงงานอย่างยอดเยี่ยมในครั้งนี้

นายสว่าง สุขศรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านบริหารทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัท มีนโยบายให้สถานประกอบการของบริษัททุกแห่งตั้งแต่ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โรงงานอาหารสัตว์ โรงงานแปรรูป โรงงานอาหารสำเร็จรูป ได้นำแนวปฏิบัติต่อแรงงานที่ดี (Good Labour Practice: GLP) และจัดทำมาตรฐานแรงงานไทย มีระบบบริหารจัดการด้านแรงงานและสวัสดิการแรงงาน รวมถึงการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อให้แรงงานทุกคนได้รับการจัดจ้างที่เป็นธรรม ทำงานในสถานที่ปลอดภัย มีสวัสดิการที่เหมาะสม ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานในทุกมิติ สอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล

ปัจจุบันสถานประกอบการของซีพีเอฟ 23 แห่งทั้งโรงงานอาหารสัตว์ โรงงานแปรรูปอาหาร โรงงานอาหารสำเร็จรูป และฟาร์มเพาะฟักลูกกุ้ง และฟาร์มกุ้งได้รับการรับรองมาตรฐานแรงงานไทยแล้ว และในปีนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าผลักดันให้สถานประกอบการทุกแห่งของบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานแรงงานไทยเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมมือกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และกรมปศุสัตว์ สร้างความรู้และความเข้าใจแนวทางการปฏิบัติที่ดีต่อแรงงาน (Good Labour Practice : GLP) ให้แก่เกษตรกรเจ้าของฟาร์มและคู่ค้าของบริษัทสามารถประยุกต์ใช้แนวทาง GLP ไปใช้ในฟาร์มและหน่วยงานได้อย่างถูกต้องและอย่างครบถ้วน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความยั่งยืนให้กับห่วงโซ่การผลิตของบริษัท และของภาคเกษตรอุตสาหกรรมไทยอีกด้วย