กรมชลฯ รับมือฝนช่วงก.ย.-ต.ค. ปรับปฏิทินทำเกษตรเร็วขึ้น ลดผลกระทบพืชไร่เสียหาย ใช้พื้นที่เป็นแก้มลิงรองรับน้ำ

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2560 ของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไว้แล้วตั้งแต่ต้นฤดูฝนที่ผ่านมา โดยปรับปฏิทินการส่งน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน คือพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำ 265,000 ไร่ ให้ทำนาปีให้เร็วขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 เป็นต้นมา ซึ่งตรงกับความต้องการและได้รับผลตอบรับจากเกษตรกรในพื้นที่เป็นอย่างดี ทำให้ปัจจุบันเกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เต็มพื้นที่ เสร็จก่อนฤดูน้ำหลาก และสามารถรับน้ำเข้าไปเก็บไว้ในทุ่งได้แล้วกว่า 150 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 400 ล้านลบ.ม.

นายทองเปลวกล่าวว่า ปรับปฏิทินการส่งน้ำเพื่อทำนาปีให้เร็วขึ้นในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างบริเวณ 12 ทุ่ง ได้แก่ ทุ่งเชียงราก ทุ่งฝั่งซ้ายคลองชัยนาท-ป่าสัก ทุ่งท่าวุ้ง ทุ่งบางกุ้ง ทุ่งบางกุ่ม ทุ่งบางบาล ทุ่งป่าโมก ทุ่งผักไห่ ทุ่งเจ้าเจ็ด โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโพธิ์พระยา โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระยาบรรลือ และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ พื้นที่รวมทั้งสิ้น 1.15 ล้านไร่ โดยกรมชลประทานได้เริ่มส่งน้ำให้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเป็นต้นมา เพื่อให้เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตให้แล้วเสร็จก่อนฤดูน้ำหลากเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ ปัจจุบันมีการเพาะปลูกไปแล้ว 953,706 ไร่ หรือคิดเป็น 83% ของพื้นที่เป้าหมาย มีการเก็บเกี่ยวไปแล้ว 687,551 ไร่ คาดว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเสร็จทั้งหมดภายในกลางเดือนกันยายนนี้ จากนั้นจะใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเหล่านี้ในการตัดยอดปริมาณน้ำหลากบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงไปจนส่งผลกระทบต่อพื้นที่ตอนล่างบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปุทมธานี นนทบุรี รวมไปถึงกรุงเทพด้วย โดยพื้นที่ลุ่มต่ำทั้ง 12 ทุ่ง สามารถรองรับปริมาณน้ำได้รวมกันประมาณ 1,500 ล้าน ลบ.ม.

 

ที่มา : มติชนออนไลน์