กกร.ยืนกรอบประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี’62 เท่าเดิม เตรียมตบเท้าถก ธปท.กู้ส่งออก

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวระหว่างการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ที่ประชุม กกร.ยังคงกรอบส่งออกทั้งปีอยู่ที่ ติดลบ 1 ถึง 1% ส่วนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ขยายตัวอยู่ในกรอบ 2.9 – 3.3% ส่วนการประเมินเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าประเทศไทยยังต้องเผชิญปัญหาจากสงครามการค้า โดยเฉพาะสหรัฐฯ เตรียมที่จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าในอัตรา 10% ต่อสินค้าจีนวงเงิน 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในวันที่ 1 กันยายนนี้ ส่วนจีนได้ปรับค่าเงินหยวนอ่อนค่าหลุดระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์

ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 11 ปี ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังระบุว่าจีนเป็นประเทศที่บิดเบือนค่าเงิน (Currency Manipulator) ซึ่งน่าจะนำมาสู่มาตรการเพิ่มเติมจากฝั่งสหรัฐฯ และเชื่อว่าจะทำให้สงครามการค้ามีความเสี่ยงที่อาจจะรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้ว่าสหราชอาณาจักรอาจจะต้องออกจากสหภาพยุโรปโดยไร้ข้อตกลง (No Deal Brexit) ในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 นี้ โดยปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงกดดันให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว ประกอบกับความผัวผวนของการค้าเหรียญสหรัฐ ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่กระทบต่อการส่งออกไทย ส่วนคาดการณ์ว่าจะติดลบมากกว่านี้หรือไม่นั้น ก็อาจจะต้องติดตามสถารการณ์เพื่อประเมินอีกครั้ง

นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากจะดันการค้า การส่งออก ยังมองว่าตลาด CLMV ตลาดค้าชายแดนจะเป็นตลาดที่จะทำให้การค้า การส่งออกดีขึ้น ดังนั้น เรื่องของการใช้สกุลเงินท้องถิ่นน่าจะทำให้ความเสี่ยงของค่าเงินน้อย จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องนี้ อีกทั้งต้องการให้ภาครัฐเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ การดูแลเรื่องของกฎระเบียบหรือมาตรการต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินกิจการได้สะดวกมากขึ้น รวมไปถึงเรื่องของมาตรการทางภาษีด้วย ทั้งนี้ ในวันที่ 8 สิงหาคม 2562 สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีนัดเข้าหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) เพื่อติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทและมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจะเข้าพบกันคนละวาระในวันพรุ่งนี้