นำร่องติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ ลักลอบนำเข้า Real Time

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ตึกนารีสโมสร น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ว่า ครม.มีมติอนุมัติให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตามโครงการติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณน้ำมันปาล์ม วงเงิน 372.51 ล้านบาท เพื่อเป็นเครื่องมือให้รัฐสามารถบริหารจัดการและควบคุมสต๊อกน้ำมันปาล์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำข้อมูลมาใช้ประกอบในการกำหนดนโยบายภาครัฐที่เหมาะสมต่อไป

โครงการนี้เป็นการจัดจ้างเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญดำเนินการติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณน้ำมันปาล์มแบบ Real Time ที่ถังเก็บน้ำมันความจุตั้งแต่ 1,000 ตันขึ้นไป จำนวน 455 ถัง ของผู้ประกอบการโรงสกัดน้ำมันปาล์ม โรงกลั่นน้ำมันปาล์ม โรงงานไบโอดีเซล และคลังรับฝาก โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือนนับถัดจากวันที่ลงนามในสัญญา

ระบบการตรวจสอบปริมาณน้ำมันปาล์มประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1.ระบบตรวจวัดปริมาณ เป็นอุปกรณ์วัดระดับและความหนาแน่นในถัง และอุปกรณ์วัดอุณหภูมิ ทำหน้าที่ตรวจสอบความแตกต่างของอุณหภูมิเพื่อใช้ในการคำนวณปริมาตร 2.ระบบประมวลผลและส่งสัญญาณ ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลการตรวจวัดปริมาณและส่งข้อมูลไปยังระบบส่วนกลาง เพื่อแสดงผลที่เป็นปัจจุบัน (Real Time) อยู่ในระดับเกณฑ์ปกติ เตือนภัย หรือวิกฤต 3.ระบบฐานข้อมูลและซอฟต์แวร์ประมวลกลาง ทำหน้าที่ประมวลข้อมูลปริมาณน้ำมันจากแต่ละถัง และสามารถสั่งการให้ระบบตรวจวัดปริมาณได้ตลอดเวลาจากส่วนกลาง

งบประมาณโครงการจำนวน 372.51 ล้านบาท ให้จัดสรรจากงบกลางฯ ปี 2562 หรืองบกลางฯ ปี 2563 แล้วแต่กรณี โดยแบ่งเป็น 1.งบลงทุนและค่าเครื่องมือ จำนวน 368.54 ล้านบาท และ 2.งบดำเนินการ จำนวน 3.96 ล้านบาท

ประโยชน์จากโครงการนี้ 1.ทำให้มีระบบติดตามตรวจสอบปริมาณน้ำมันปาล์มดิบทั้งระบบที่มีความถูกต้องแม่นยำ 2.เป็นกลไกในการตรวจสอบการและป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม โดยใช้ข้อมูลบ่งชี้จากความผิดปกติของปริมาณน้ำมันในสต๊อก 3.รักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันปาล์มและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้การดำเนินโครงการในระยะต่อไป ให้ภาคเอกชนและผู้ประกอบการเป็นผู้รับผิดชอบ