ทียู ชี้แจงกรณีการระบาดของโควิด-19 จ.สมุทรสาคร หลังพบพนักงานติดเชื้อ 1 ราย เดินหน้าผลิตต่อ ยืนยันให้ความสำคัญปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับด้านความปลอดภัย เตรียมแผนรับมือกรณีต้องปิด 2 สัปดาห์ กระทบรายได้น้อยกว่า 2%
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือทียู เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครนั้น เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมนี้ บริษัทได้รับรายงานยืนยันว่ามีพนักงานติดเชื้อ 1 รายจากพนักงานทั้งหมดของกลุ่มบริษัทที่มีการปฏิบัติงานในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งไทยยูเนี่ยนมีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของทางหน่วยงานราชการว่าด้วยการตรวจสอบหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้กับพนักงานของบริษัทฯ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
“ขอยืนยันว่า สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญสูงสุดคือสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน คู่ค้า ผู้บริโภคและชุมชนโดยรอบ บริษัทได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐ ในการปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางป้องกันต่าง ๆ และจนถึงปัจจุบัน“
อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2563 โรงงานทุกโรงในประเทศไทย ภายใต้บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ยังคงเปิดดำเนินการและเราได้วางแผนการดำเนินงานอย่างรอบคอบและรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อการผลิต
“หากในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัยที่อาจทำให้ต้องปิดโรงงานทุกโรงในจังหวัดสมุทรสาครเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ทางบริษัทได้ประเมินว่าจะมีผลกระทบต่อรายได้ทั้งหมดของบริษัทน้อยกว่า 2% ของรายได้รวมต่อปี ซึ่งบริษัทได้เตรียมมาตรการเสริมเพื่อทดแทนกำลังการผลิตไว้แล้วหากเกิดเหตุสุดวิสัยดังกล่าวขึ้น”
ทั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนขอความร่วมมืออย่างต่อเนื่องให้พนักงานปฏิบัติตามข้อแนะนำและแนวทางปฏิบัติด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยทั้งจากภาครัฐและบริษัทฯ ตั้งแต่ต้นปี บริษัทฯ มีมาตรการคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาปฏิบัติงานที่โรงงาน ซึ่งครอบคลุมทั้งพนักงานบริษัทฯ และผู้ที่มาติดต่อ รวมถึงมาตรการและข้อปฏิบัติด้านความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ และเว้นระยะห่างทางสังคม
“สุดท้าย ผมเชื่อว่าความร่วมมือคือหัวใจสำคัญของการฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จะเดินหน้าให้ความร่วมมือกับภาครัฐเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการยับยั้งการแพร่ระบาดในครั้งนี้”