นักเรียนฉีดวัคซีนแล้ว 2.5 ล้านคน เหลือครู-บุคลากร ยังไม่ฉีดอีก 1 แสน

นักเรียนฉีดวัคซีนแล้ว 2.5 ล้านคน เหลือครู-บุคลากร ยังไม่ฉีดอีก 1 แสน
ภาพจากเฟซบุ๊ก ตรีนุช เทียนทอง

ศธ.อัพเดตนักเรียนฉีดวัคซีนแล้ว 2.5 ล้านคน ส่วนครู-บุคลากร ครบ 2 เข็มแล้ว 5 แสนคน เหลือยังไม่ได้ฉีดอีก 1 แสน กำลังเร่งดำเนินการ

วันที่ 28 ตุลาคม 2564 ในแถลงข่าว “ความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564” โดนมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ และ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เข้าร่วม

นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวมนแถลงข่าว ถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของครู-บุคลากร และนักเรียน ว่า ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 มีครูและบุคลากรการศึกษาทั้งหมดประมาณ 894,000 ราย ตอนนี้ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว 782,010 ราย หรือคิดเป็น 87%

แต่พอนับคนที่ฉีดครบ 2 เข็ม จะอยู่ที่ 522,133 คน และยังมีครูบุคลากรที่ยังไม่ได้ฉีดอีก 112,377 คน ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข กำลังเร่งดำเนินการอยู่

ส่วนภาพรวมของนักเรียน ขณะนี้มีนักเรียนที่ประสงค์ฉีดวัคซีน 3,817,727 ราย ตอนนี้ฉีดไปแล้ว 2,544,267 ราย คิดเป็น 66.64% ซึ่งก็อยากให้ผู้ที่ยังไม่ได้แจ้งความประสงค์ ก็ขอให้แจ้งรายชื่อไปยังสถานศึกษาต้นสังกัด เพื่อที่จะได้จัดสรรเตรียมวัคซีนและได้ดำเนินการฉีดให้ในลำดับต่อไป เพื่อรับการเปิดเทอมออนไซต์ 1 พฤศจิกายนนี้

ขณะเดียวกัน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ กล่าวว่า หากประเทศไทยสามารถเปิดโรงเรียนได้ จะเป็นสัญลักษณ์สำคัญยิ่งกว่าการเปิดประเทศ และเมื่อถามว่าเปิดโรเงรียนแล้วความเสี่ยงยังจะมีไหม ก็ต้องตอบว่ามี เพราะถ้าจะไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเลยก็คงต้องปิดทุกอย่าง แต่ถามว่าถ้าปิดทุกอย่างเพื่อให้ตัวเลขเป็นศูนย์นั้นคุ้มหรือไม่

ตอนนี้ทั่วโลกคิดเหมือนกันหมดว่าไม่คุ้มแน่ เห็นได้จากหลังจากไทยประกาศเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน ตอนนี้พบว่ามีหลายประเทศประกาศเปิดตามเรา ไม่ว่าจะฝั่งอาเซียน หรือยุโรป แสดงว่านานาชาติเห็นพ้องต้องกันว่าต่อไป เราจะต้องอยู่กับเชื้อโควิดให้ได้ ตอนนี้แนวนโยบายคือทำอย่างไรให้เราอยู่กับเชื้อโควิดให้ได้มากที่สุด ทำอย่างไรให้เด็กของเรามีความรู้ ความสามารถในการป้องกันตนเอง

“วัคซีนเป็นกลไกอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้เราอยู่กับเชื้อไวรัสโควิดได้ เป็นที่ยอมรับว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยหนัก เสียชีวิตได้ดีมาก ข้อมูลขณะนี้ของเราผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ฉะนั้นโอกาสที่เด็กจะป่วยหนักจากการติดเชื้อน้อยมากจนถึงไม่มีเลย ขอให้มั่นใจในการเตรียมการเรื่องวัคซีน”

นายแพทย์โอภาส กล่าวอีกว่า ตอนแรกมีนักเรียนแจ้งความประสงค์ฉีด 3.8 ล้านคน แต่ล่าสุดได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า มีผู้แจ้งความประสงค์เข้ามาอีกอย่างน้อยราว 5 แสนคน ฉะนั้นก็เป็นภารกิจที่สธ.จะต้องจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ตอนนี้ได้จัดส่งไปประมาณ 6 ล้านโดส ในพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว ก็มีการไล่เลียงฉีดตามลำดับ ที่สำคัญข้อมูลที่ได้มาล่าสุดคือหลายประเทศเริ่มมีการฉีดวัคซีนในเด็กประถมแล้วหรือเด็กที่อายุ ต่ำกว่า 12 ปี

ภารกิจของกระทรวงสาธารณสุขในลำดับต่อไปคือ เร่งให้บริษัทที่เกี่ยวข้องมาขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ถ้าอนุญาตให้ฉีดก็จะเรียนให้ทราบ และจัดเตรียมวัคซีนให้ ขณะเดียวกันหลายบริษัทตอนนี้กำลังพัฒนาวัคซีนเด็ก ซึ่งมีความคืบหน้าไปมากผมเชื่อว่าไม่นานเราคงได้ดำเนินการฉีดวัคซีนในเด็กประถมได้ในไม่ช้า