ส่องกฎเหล็กแก้รถติด “สิงคโปร์” มีตังค์ซื้อก็ขับไม่ได้

การจัดอันดับประเทศที่มีจราจรคับคั่งในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเย็นมากที่สุดในปี 2017 ของบริษัทผลิตอุปกรณ์จีพีเอสติดรถยนต์ยี่ห้อ TomTom สัญชาติฮอลแลนด์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปรากฏว่า กรุงเทพมหานคร ของไทยถูกจัดอยู่อันดับที่ 1 อันดับสองเป็น กรุงแม็กซิโก ซิตี้ ของแม็กซิโก ตามมาด้วย กรุงบูคาเรส ของโรมาเนีย เป็นอันดับ 3 จาการ์ตาร์ของ อินโดนีเซีย อันดับ 4 และมอสโค ของรัสเซีย อันดับ 5

แต่จากการจัดอันดับรถติดเวลาเร่งด่วนล่าสุดของ TomTom เจ้าเดิม ปรากฏว่าสถานการณ์รถติดของไทยอยู่อันดับดีขึ้นมา 1 อันดับ โดยหล่นลงมาอยู่ในอันดับที่ 2 ตามหลังกรุงกรุงแม็กซิโก ซิตี้ ขณะที่กรุงจาการ์ตาร์ของ อินโดนีเซีย อันดับ 3 เมืองฉงชิ่งของจีน ตามมาเป็นอันดับ 4 และอันดับ 5 คือกรุง กรุงบูคาเรส ของโรมาเนีย

โฟกัสเฉพาะกรุงเทพเมืองฟ้าอมรของไทย ปัญหารถติดในชั่วโมงเร่งด่วนยังเป็น “ปัญหากรุงแตก” แม้ว่าทุกครั้งที่กรุงเทพฯ ถูกจัดอันดับเบอร์ต้นๆ ของโลก แต่ก็ไม่มีฝ่ายไหนแบกรับความดีความชอบ หรือพึงพอใจกับสถิติ ทว่า.. ยิ่งแก้ไขเหมือนลิงแก้แห ยิ่งแก้กลับยิ่งติด

หากลองชะโงกดูประเทศในอาเซียนอย่าง “สิงคโปร์” ซึ่งการจัดอันดับของ TOMTOM นั้นอยู่อันดับที่ 55 แต่เมื่อการจราจรเริ่มหนาแน่น ประเทศที่มีกฎหมายเป็นกฎเหล็กที่เข้มงวด อย่างสิงคโปร์ จึงเตรียมออกกฎหมายใหม่ขึ้นมา 1 ฉบับ ตามรายงานของซีเอ็นเอ็น โดยให้ประชาชนเป็นเจ้าของรถยนต์ส่วนตัวได้ยากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า รัฐบาลสิงคโปร์ ประเทศแห่งเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเป็นทางการว่า จะไม่อนุญาตให้มีการเพิ่มจำนวนรถที่วิ่งบนท้องถนน โดยจะระงับการออกใบอนุญาตการเป็นเจ้าของรถยนต์ เนื่องจากปัญหาจราจรติดขัด

ปัจจุบัน สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่ประชาชนจะสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ยากอยู่แล้ว ผู้ขับขี่จะต้องซื้อใบอนุญาตพิเศษจากรัฐบาล ราคาราว 5 หมื่นเหรียญดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 37,000 เหรียญสหรัฐ หากคิดเป็นเงินไทยก็จะอยู่ราวๆ 1,190,000.00 เพื่อแลกกับการเอารถมาวิ่งบนท้องถนนได้ โดยใบอนุญาตมีอายุ 10 ปี

บวกกับราคารถที่แพงระยับ นึกภาพง่ายๆ ว่ารถยนต์โตโยต้า อัลติส 1 คัน ในประเทศไทย ราคาเริ่มต้นจะอยู่ราวๆ 8 แสนบาทเศษ แต่ถ้าซื้อขายกันในประเทศสิงคโปร์ ราคาจะอัพขึ้นหลายเท่า ตัวเลขกลมๆ อยู่ที่ 2.5 ล้านบาท หรืออย่าง ฮอนด้า ซิตี้ ที่เมืองไทยราคาประมาณ 5 – 6 แสนบาท  2 – 2.5 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าใบอนุญาตใบละเกือบ 1.2 ล้านบาท

ทั้งที่ราคารวมกันแพงหูฉี่แต่รถก็ยังแน่นขนัดในเมืองเล็กๆ อย่างสิงคโปร์ ทั้งที่รัฐบาลอนุญาตให้มีรถออกมาวิ่งบนท้องถนนได้ราว 0.25% ต่อปีเท่านั้น ดังนั้น ในกุมภาพันธ์ปีหน้า รัฐบาลจะระงับการออกใบอนุญาตเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล หมายความว่า หากใครต้องการใบอนุญาตใบใหม่ ต้องรอเจ้าของใบอนุญาตเดิมยกเลิกเสียก่อน

เจ้าพนักงานด้านการขนส่งทางบกของสิงคโปร์ระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่จราจรในประเทศเริ่มแออัดมากขึ้น และมีพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับรถทุกคัน รัฐบาลต้องการให้ประชาชนโดยสารรถสาธารณะ และเตรียมจะใช้เงินกว่า 21 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในการสร้างและพัฒนารางรถไฟ เครือข่ายรถบัส ในอีก 5 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ กฎใหม่นี้จะไม่กระทบต่อรถบรรทุกและรถบัส โดยจะยังให้เพิ่มจำนวนได้ 0.25% ต่อปี อย่างไรก็ตามการระงับการออกใบอนุญาตรถยนต์ส่วนตัวดังกล่าวไม่ได้เป็นกฎหมายถาวร รัฐบาลระบุว่าจะมีการพิจารณาระเบียบใหม่อีกครั้งในปี 2020 ปัจจุบันสิงคโปร์มีรถยนต์ส่วนตัว 6 แสนคัน และมีประชากร 5.6 ล้านคน

ไทยซึ่งมีการจราจรติดขัดขนาดนี้… แต่เชื่อได้ว่าไม่มีรัฐบาลไหนกล้าทำเหมือนสิงคโปร์เป็นแน่แท้