EA ผุดโรงงานใหม่ล้อ EEC นิคมในแปดริ้ว/รายได้ 8 พันล้าน

“พลังงานบริสุทธิ์” เล็งสร้างโรงงานใหม่ในนิคมฯฉะเชิงเทราโหนกระแส EEC เพิ่มกำลังผลิต “แบตเตอรี่-ไบโอดีเซล” ชูเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าสินค้า คาดปีนี้รายได้โรงไฟฟ้าลมและโซลาร์ฟาร์มสูง 7-8 พันล้านบาท เปิดแผนลงทุน 2 ปี ทุ่มเงิน 2.47 หมื่นล้าน

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยถึงแผนการลงทุนของบริษัทว่า จากนโยบายพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) บริษัทจึงมีแผนลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่เพิ่มในเขต EEC ซึ่งกำลังพิจารณาพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวนกว่า 2,000 ไร่ สำหรับโรงงานแห่งใหม่นี้จะใช้เทคโนโลยีในการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ในกลุ่มไบโอดีเซล แบตเตอรี่ และกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง

“คาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนภายในปีนี้ และเริ่มก่อสร้างรวมถึงดำเนินการผลิตได้ในปี 2562” นายอมรกล่าว

อย่างไรก็ตาม แผนการลงทุนโรงงานใหม่ใน EEC บริษัทยังไม่นับรวมกับแผนการลงทุนทั้งโรงไฟฟ้า สายธุรกิจไบโอดีเซล แบตเตอรี่ ของปี 2561-2562 ที่มีงบฯลงทุนรวมประมาณ 24,700 ล้านบาท โดยปีนี้แผนลงทุนหลัก คือ การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน จ.ชัยภูมิ ขนาดกำลังผลิต 260 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างที่ใช้งบฯลงทุนราว 17,700 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จและเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปลายปีนี้ เมื่อรวมกับปัจจุบันที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานลม จ.สงขลาและนครศรีธรรมราช ที่มีกำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์

ขณะที่โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม 4 แห่ง (จ.ลพบุรี, นครสวรรค์, พิษณุโลก และลำปาง) มีกำลังการผลิตรวม 278 เมกะวัตต์ บริษัทจะมีกำลังผลิตทั้งจากโรงไฟฟ้าลมและโซลาร์ฟาร์มรวม 664 เมกะวัตต์ จะทำรายได้ ปีนี้ 7-8 พันล้านบาท

“ปีนี้โซลาร์ฟาร์มยังไม่มีลงทุน ส่วนแผนในอนาคต ก็มองหาโอกาสลงทุนในต่างประเทศ โดยได้เข้าไปศึกษากลุ่มอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ซึ่งบางประเทศก็มีีความเป็นไปได้ที่จะลงทุนด้านพลังงานโซลาร์ฟาร์มและพลังงานลม อย่างฟิลิปปินส์ที่ตั้งเป้ากำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ ใกล้เคียงกับไทยที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 10,600 เมกะวัตต์ ส่วนอินโดนีเซียตั้งเป้าเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานลมอยู่ที่ 20,000 เมกะวัตต์ เพราะฉะนั้น ประเทศเหล่านี้ถือเป็นตลาดใหม่ที่เราจะต้องวิ่งออกไปแข่ง” นายอมรกล่าว

Advertisment

ส่วนธุรกิจไบโอดีเซลภายในปี 2562 มีแผนจะขยายการลงทุนอีก 2,000 ล้านบาท เพื่อผลิตทั้งไบโอดีเซล กรีนดีเซล พีซีเอ็ม และผลิตภัณฑ์พลอยได้ต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ปริมาณการขายเพิ่ม 1.2 ล้านลิตรต่อวัน จากที่อยู่ 8 แสนลิตรต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ปีนี้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าของบริษัทจะมีการขยายตัวมาก ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 65% ของรายได้รวม ขณะที่รายได้จากไบโอดีเซลลดลงมาเหลือ 35% เนื่องจากปริมาณขายเติบโตเล็กน้อย

ด้านการลงทุนก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่เฟส 1 ขนาดกำลังการผลิต 1 จิกะวัตต์ต่อชั่วโมง (GWh) มีแผนกำหนดแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตสร้างรายได้ในกลางปี 2562 ซึ่งเฟสแรกผลิตแบตเตอรี่สำหรับใช้ในโรงไฟฟ้า และมีแผนจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับโรงงานขนาด 50 จิกะวัตต์ต่อชั่วโมง (GWh) ดังนั้นภายใน 2 ปี จะใช้งบฯลงทุนรวมราว 4,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ มีโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ที่ใช้งบฯลงทุน 700 ล้านบาท เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จทั่วประเทศ 1,000 สถานี จากที่มีกว่า 100 สถานี ในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า, Max Value, A.C.T คาร์แคร์, ปั๊มน้ำมัน Susco, F&N Outlet เป็นต้น ซึ่งรายได้ในส่วนนี้อาจจะยังไม่มาก

Advertisment

“แหล่งเงินทุนใน 2 ปีนี้ มาจากกระแสเงินสดที่มีอยู่กว่า 6,000 ล้านบาท นอกจากนี้ออกหุ้นกู้ น่าจะชัดเจนปลายเดือน ก.พ.นี้ และจากผู้ร่วมทุน” นายอมรกล่าว