สงครามการค้าโลกฉุดหุ้นไทยร่วงต่อ จับตาคู่ค้าออกมาตรการตอบโต้กำแพงภาษีของ “ทรัมป์”

นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในวันที่ 8 มี.ค.61 ดัชนีฯมีความผันผวนอยู่ในแดนบวกสลับแดนลบตลอดทั้งวัน หลังได้รับแรงกดดันจากนโยบายการจัดเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมของประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ยังมีปัจจัยภายในประเทศเรื่องของเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ช่วยหนุนตลาดไว้ได้บ้าง อย่างไรก็ตามเนื่องจาก SET ปิดต่ำกว่า 1,780 จุด จึงอาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก ซึ่งภาพรวมดัชนีฯ วันนี้ปิดตลาดที่ 1,778.90 จุด ลดลง 2.74 จุด หรือ -0.15% ขณะที่มูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม) อยู่ที่ 71,776.63 ล้านบาท

สำหรับทิศทางการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (9 มี.ค.61) นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป ประเมินว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนรุนแรงจากปัจจัยต่างประเทศ เนื่องจากคู่ค้าทั่วโลกเตรียมมาตรการตอบโต้ “โดนัลด์ ทรัมป์” หลังประกาศตั้งกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม ล่าสุด แคนาดา เม็กซิโก บราซิล และสหภาพยุโรป ประกาศว่า จะออกมาตรการตอบโต้กำแพงภาษีของทรัมป์ โดยด้านสหภาพยุโรปมองว่ากำแพงภาษีกระทบต่อการจ้างงานหลายพันตำแหน่งของยุโรป และยุโรปจะไม่นิ่งเฉยกับมาตรการการค้าที่ไม่เป็นธรรม โดยให้กรอบดัชนีฯเคลื่อนไหวบริเวณระดับแนวรับถัดไป 1,760 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,800 จุด

อย่างไรก็ตาม หาก SET ไม่สามารถยืนเหนือ 1,780 จุด แนะนำ “ชะลอการลงทุน” แต่หากดัชนีฯสามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้อาจจะมีรีบาวน์กลับขึ้นมา แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นรายตัวที่ราคาย่อตัวลงมา ได้แก่ MTLS และหุ้นที่มีปันผลดี ได้แก่ RS-BIG