โบรกเก็ง Q2 ดัชนีหุ้นไทยไปต่อ อานิสงส์กลุ่มแบงก์ฟื้น-ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า

จับสัญญาณตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาส 2/61 ส่อแววขาขึ้น นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลสัญญาณดอกเบี้ยเฟดขาขึ้น ชี้กำไร บจ.ไตรมาสแรก “สดใส” พร้อมดึงดูดฟันด์โฟลว์ไหลเข้าช่วงกลางปีนี้ 2 โบรกเกอร์ “ยูโอบีฯ-ทรีนีตี้” มั่นใจดัชนีหุ้นไทยลุ้นทะยาน 1,900 จุด

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาส 2/2561 นี้ คาดว่า ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) น่าจะแกว่งตัวขึ้น โดยมีโอกาสเห็นดัชนีเคลื่อนไหวทะลุระดับ 1,900 จุดได้ หลังก่อนนี้ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวสะท้อนแรงกดดันจากแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุน และความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงโค้งสุดท้ายของไตรมาสแรกไปแล้ว

ขณะที่มีแรงผลักดันสำคัญจากการปรับประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี รวมถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2561 ที่คาดว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) จะปรับตัวฟื้นตัวดีขึ้น

“เราคาดว่าไตรมาส 2/2561 ตลาดหุ้นไทยน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,780-1,920 จุด โดยโอกาสจะเห็นดัชนีเคลื่อนไหวทะลุระดับ 1,900 จุด และไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,920 จุดได้ เนื่องจากคาดว่าตลาดจะได้แรงหนุนจากแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มแบงก์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีน้ำหนักกว่า 20% ของมาร์เก็ตแคปทั้งตลาด ที่สดใสมากขึ้น จากผลประกอบการงวดไตรมาสแรกที่คาดว่าจะออกมาดี และช่วยผลักดันตลาดให้คึกคักมากขึ้น” นายกิจพลกล่าว

สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในงวดไตรมาส 2 นี้ มี 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มท่องเที่ยว คาดผลประกอบการไตรมาส 1/61 จะออกมาสดใส 2.กลุ่มค้าปลีกที่ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของบริโภคภายในประเทศ หลังรายได้ภาคเกษตรกรเริ่มเป็นบวก 3.กลุ่มธนาคาร ซึ่งคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตขึ้น และการตั้งสำรองน่าจะลดลง จะช่วยหนุนให้กำไรเพิ่มขึ้น และ 4.กลุ่มการแพทย์ ซึ่งได้อานิสงส์จากตัวเลขผู้ป่วยต่างชาติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

นายกิจพลกล่าวถึงกลยุทธ์การลงทุนในช่วงดังกล่าวว่า แนะนำ “เพิ่ม” น้ำหนักพอร์ตลงทุนในหุ้นเป็น 70-80% และถือเงินสด 20-30% จากช่วงไตรมาสแรกที่ให้ลงทุนในหุ้น 60% และถือเงินสด 40% อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง ได้แก่ 1.ผลกระทบจากการเตรียมรองรับมาตรฐานบัญชีใหม่ (TFRS9) อาจทำให้กลุ่มแบงก์และกลุ่มไฟแนนซ์เริ่มมีการตั้งสำรองมากขึ้น ซึ่งอาจกดดันให้กำไรออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และ 2.แรงกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่เร่งตัวกว่าที่ตลาดคาด

วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล

นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ กล่าวคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นร้อนแรง หรือเกิดปรากฏการณ์ “midyear rally” ที่พร้อมจะดันดัชนีทดสอบระดับ 1,900 จุด ได้ในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนเริ่มผ่อนคลายการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ หลังจากที่ผ่านมาได้ผ่านจุดสูงสุดของการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว จึงอาจทำให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติโยกออกจากพันธบัตรสหรัฐ และไหลเข้าตลาดหุ้นโลกมากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและตลาดหุ้นไทย ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตของ บจ.และมีสภาพคล่องสูง

ขณะที่ปัจจัยบวกภายในประเทศยังมีแรงหนุนจากผลประกอบการของ บจ.งวดไตรมาส 1/2561 ที่คาดว่าหลายกลุ่มอุตสาหกรรมจะเติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี และยานยนต์ รวมถึงอานิสงส์จากการใช้งบประมาณกลางปี 2561 ของรัฐบาล

ด้านความเสี่ยงที่ต้องจับตา คือ นโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐ โดยเฉพาะการทำสงครามการค้ากับจีน ซึ่งอาจจะนำไปสู่การขายพันธบัตรสหรัฐ และนำมาซึ่งความผันผวนของกระแสเงินทุน ค่าเงิน และกระทบต่อตลาดทุน

“ฟันด์โฟลว์ต่างชาติไหลเข้าตั้งแต่ช่วงต้นปีถึงปัจจุบัน ได้ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยแล้วกว่า 5 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ไหลเข้าไปอยู่ในพันธบัตรไทยกว่า 2 แสนล้านบาท และบางส่วนไหลเข้าไปในหุ้นที่จ่ายปันผลสูง เพราะยังไม่ได้เข้ามาในตลาดหุ้นด้วยประเด็นผลประกอบการอย่างจริงจัง ขณะที่คาดว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณฟันด์โฟลว์ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในช่วงกลางปีนี้ เพราะแรงดึงดูดจากการประกาศงบไตรมาสแรกที่ดีของ บจ.ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้” นายวิศิษฐ์กล่าว