เคแบงก์ ไพรเวท แนะลงทุน “สินทรัพย์นอกตลาด” หนีตลาดผันผวน ตั้งเป้าลูกค้าลงทุน 20%

KBank Private Banking ปรับกลยุทธ์การลงทุนหนีตลาดผันผวน ชูการลงทุนนอกตลาด ลดข้อจำกัด-เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาว ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้าหันลงทุน 20% ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันลูกค้ามีพอร์ตลงทุนแล้ว 1.6 หมื่นล้าน พร้อมเดินหน้า 3 กลยุทธ์ผลักดัน 

วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ดร.ตรีพล ภูมิวสนะ Senior Managing Director, Private Banking Business Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากภาพรวมการลงทุนทั่วโลกในปี 2567 ยังคงผันผวนจากความไม่แน่นอนหลายด้าน ทั้งจากปัจจัยนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ดั้งเดิมมีความท้าทายมากขึ้น ส่งผลให้การลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดเริ่มมีบทบาทมากขึ้น

ดังนั้น ธนาคารจึงปรับกลยุทธ์การลงทุนในปี 2567 ในการมุ่งเน้นการลงทุนนอกตลาด (Private Asset) เนื่องจากมีจุดเด่น 4 ด้าน คือ 1.ช่วยกระจายพอร์ตการลงทุนและลดความผันผวนของลูกค้า 2.สร้างเสถียรภาพและเพิ่มความมั่นคงให้กับพอร์ต เนื่องจากไม่ผันผวนหรือมีความอ่อนไหวต่อราคา 3.เพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน และ 4.มีโอกาสลงทุนในบริษัทที่อาจพลิกธุรกิจและเป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต

ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วนลูกค้าที่ลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดประมาณ 10% ในแง่จำนวนฐานลูกค้า จากปัจจุบันมีฐานลูกค้าราว 1.2 หมื่นราย และในแง่สินทรัพย์การลงทุนมีสัดส่วน 6% หรือคิดเป็น 1.6 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ประมาณ 9 แสนล้านบาท และคาดหวังในระยะยาวในช่วง 5 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนลูกค้าและพอร์ตสินทรัพย์การลงทุนนอกตลาดเพิ่มเป็น 20% ซึ่งเป็นสัดส่วนใกล้เคียงกับต่างประเทศ

อย่างไรก็ดี ภายในเดือนนี้ธนาคารเตรียมออก 2 กองทุนสินทรัพย์นอกตลาด ซึ่งอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยจะเป็นการร่วมมือกับพันธมิตร ได้แก่ EQT ในรูปสกุลยูโร โดย EQT ซึ่งมีสินทรัพย์กว่า 2.32 แสนล้านดอลลาร์ มีความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน มีการออกกองทุนกว่า 50 กองทุน และอีก 1 กอง จะร่วมกับ Apollo สกุลดอลลาร์ โดย Apollo เป็นอันดับ 1 ในด้าน Private Credit ที่มีสินทรัพย์กว่า 4.6 แสนล้านดอลลาร์ ที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 22%

Advertisment

“ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เราถือว่าเป็นเจ้าแรก ๆ ในการนำเสนอการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด โดยมีการนำเสนอแล้ว 10 กองทุน แบ่งเป็น 6 กองทุนหุ้นนอกตลาด และ 3 กองทุนอสังหาริมทรัพย์นอกตลาด และอีก 1 กองทุนหนี้นอกตลาด โดยกองทุนหุ้นนอกตลาดทั่วโลก (K-GPE19A-UI) ให้ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ 58.67% เป็นต้น และจากสถิติการลงทุนนอกตลาดสามารถสร้างผลตอบแทนมากกว่าหุ้นในตลาดได้ถึง +5-9%”

สำหรับกลยุทธ์หลักในการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาดจะมีด้วยกัน 3 กลยุทธ์ ได้แก่ 1.กลยุทธ์การจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite ที่จะจัดแบ่งส่วนหลักและส่วนเสริมเพื่อกระจายความเสี่ยง และลดความผันผวนผ่านการลงทุนระยะยาว ขณะเดียวกันยังสามารถเพิ่มโอกาสการสร้างผลตอบแทนจากการจับจังหวะลงทุนตามธีมและเมกะเทรนด์ที่กำลังเติบโตขึ้น โดยสัดส่วนหลักหรือ Core จะคิดเป็น 60-80% ของพอร์ตสินทรัพย์นอกตลาดจะเป็นกองทุนสินทรัพย์นอกตลาดกึ่งสภาพคล่อง ที่ลงทุนเพิ่มได้ทุกเดือน ขายหน่วยลงทุนได้เป็นรายไตรมาส และมีล็อกเงินลงทุนเพียง 12-18 เดือน

2.ออกแบบพอร์ตการลงทุนที่สร้างให้เฉพาะคุณ (Tailor-made Portfolio Management) โดยสามารถบริหารสัดส่วนพอร์ตลงทุนตามเป้าหมายของแต่ละบุคคลได้อย่างยืดหยุ่น เช่น เมื่อนักลงทุนต้องการสภาพคล่องสูง สามารถเลือกลงทุนในกองทุนสินทรัพย์นอกตลาดกึ่งสภาพคล่องได้ทั้ง 100%

3.การเดินหน้าผนึกกำลังกับพันธมิตรระดับโลกที่ดีที่สุดอย่างไม่หยุดยั้ง (Partner with the Best) เพื่อพัฒนาการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการมาตรฐานระดับโลกให้แก่นักลงทุนไทย

Advertisment