“กรุ๊ปลีส” โล่งใจ Q1 /61 มีกำไรสุทธิ 104 ล้านบาท หวังไตรมาส 2 กำไรจะดีขึ้น

บริษัทกรุ๊ปลีสจำกัด (มหาชน) เปิดผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2561 มีกำไรสุทธิ ที่ 104 ล้านบาท ลดลง 68% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการไม่รับรู้รายได้ของกลุ่มบริษัที่เกี่ยวข้องกับไซปรัสและสิงคโปร์ คาดหวังไตรมาส 2 ปีนี้กำไรจะบวกต่อเนื่อง เพราะค่าใช้จ่ายเรื่องศาลจะลดลง และควบคุมค่าใช้จ่ายดีขึ้น อัพเดทกรณี JTA ฟ้องล้มละลายถูกยกฟ้องไปแล้ว ทางGL อยู่ระหว่างฟ้องกลับเรียกค่าเสียหาย 880 ล้านบาท

นาย อาลัน ฌอง ปาสคาล ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่การเงินบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไตรมาส 1 ปี 2561 ทางบริษัทฯมีกำไรสุทธิ104.82 ล้านบาท ลดลง 68% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการไม่รับรู้รายได้ของกลุ่มบริษัที่เกี่ยวข้องกับไซปรัสและสิงคโปร์ แต่ถือว่ามีกำไรสุทธิต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปี 2560 ปรับตัวดีกว่าช่วงไตรมาส 3 ปี 2560 ที่ขาดทุนต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่ผ่านมา ธุรกิจในประเทศไทย ลาวพม่าและอินโดนีเซีย เป็นกลุ่มประเทศหลักที่สร้างรายได้ โดยบริษัทฯยังคงมุ่งเน้นไปที่ประเทศไทยและตลาดที่มีการเติบโตสูงเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้รายได้ของบริษัทฯส่วนใหญ่มาจากสายผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อรายได้จากสินทรัพย์และรายได้ของสินเชื่อรายย่อย ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วน87% ของรายได้ในไตรมาส1/2561เทียบกับปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนอยู่ที่ 77%
นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไตรมาส 2 ปี 2561 นี้คาดว่า กำไรสุทธิจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ปี 2561 เนื่องจากทางบริษัทฯมีการปรับโครงสร้างธุรกิจแล้ว และมีการขยายผลิตภัณฑ์ทางการเงินตัวใหม่ เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนในหลายประเทศ ส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯเพิ่มขึ้นในระยะยยาว ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายทางกฎหมายจะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2561 (อยู่ที่ 35 ล้านบาท)

“สำหรับแนวทางการบริหารงานในช่วงตลอดปีที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงปีนี้ บริษัทฯ มองเห็นโอกาสการขยายธุรกิจในประเทศไทย กลยุทธ์สำคัญ คือ การสร้างความน่าเชื่อถือกับตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภค ด้วยการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์และบริการของเราเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกกลุ่มเป้าหมายให้คลอบคลุม และดีกว่าผู้ให้บริการด้านการเงินรายอื่นๆในประเทศไทยทั้งนี้เรามั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่งและจะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้”

ด้านความคืบหน้าของกระบวนการทางกฎหมาย ส่วนที่ J Trust Asia Pte., Ltd. ยื่นฟ้องบริษัทฯต่อศาลล้มละลายกลาง ได้รับการยกฟ้องแล้ว เพราะทางบริษัทฯยังมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง ขณะเดียวกันเดือนเม.ย 2561 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้อง J Trust Asia Pte., Ltd. เป็นคดีอาญาต่อศาลล้มละลายกลาง ในฐานความผิดร่วมกันยื่นคำร้องขอต่อศาลให้มีการฟื้นฟูกิจการอันเป็นเท็จ ในสาระสำคัญ รวมถึงได้อ้างว่า กรุ๊ปลีส ต้องด้วยข้อสันนิษฐานที่จะสามารถยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการบริษัทฯ ซึ่งเป็นเท็จ ทำให้บริษัทฯ เสื่อมเสียชื่อเสียง ขาดความน่าเชื่อถือในกลุ่มนักลงทุน และส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัทฯ

Advertisment

ทั้งนี้ศาลล้มละลายกลางได้รับฟ้องและกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 25 มิ.ย. 2561 เวลา 9.00 น.และ บริษัทฯ ยังได้ยื่นฟ้อง J Trust Asia Pte., Ltd. จำกัดเป็นจำเลยต่อศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2561 เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่พ.2313/2561 มีจำนวนทุนทรัพย์ 880,000,000 บาท ในข้อหาละเมิด และเรียกค่าเสียหาย และค่าสินไหมทดแทน โดยมีวันนัดพิจารณาครั้งแรก (วันนัดชี้สองสถาน) ในวันที่ 20 ส.ค. 2561