บาทอ่อนค่าตามภูมิภาค ขณะเฟดยังแสดงมุมมองเชิงบวก

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 33.34/36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดในวันพุธ (18/7) ที่ระดับ 3.33/35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับปัจจัยหนุนหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวแถลงการณ์ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็จะยังดำเนินการขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ที่ 2 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐ ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้แสดงความเห็นว่าหากเฟดมีปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ช้าเกินไป อาจจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อนั้นปรับตัวสูงขึ้นจนเกินไป แต่ถ้าหากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รวดเร็วจนเกินไป ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจของสหรัฐอ่อนแอลงและจะทำให้อัตราเงินเฟ้อเคลื่อนไหวกว่าเป้าหมายของเฟดเป็นเวลานาน สำหรับประเด็นทางการค้านั้น เฟดก็ยังคงมีความกังวลต่อความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ และกลุ่มประเทศคู่ค้าหลัก ที่อาจจะกระทบต่อการลงทุนทางธุรกิจและอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจกับนโยบายการเงินของเฟดต้องเปลี่ยนทิศทางไปจากเดิม โดยบริษัทหลายแห่งในสหรัฐนั้นต่างก็ได้รับความเสียหายจากปัจจัยดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถที่แสดงเป็นมูลค่าความเสียหายดังกล่าวได้ เนื่องจากมูลค่าเศรษฐกิจของสหรัฐนั้นมีมูลค่ามากถึง 20 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง จึงจะสามารถประเมินความเสียหายได้

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ได้เปิดเผยในคืนที่ผ่านมานั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้มีการเปิดเผยตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ ประจำเดือนมิถุนายน ลดงถึง 12.3% สู่ระดับ 1.173 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 และเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 อีกทั้งตัวเลขการอนุญาตการสร้างบ้านประจำเดือนมิถุนายน ลดลง 2.2% สู่ระดับ 1.273 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำตั้งแต่กันยายน 2559 โดยเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 33.27-33.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 33.43/45 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้ (19/7) เปิดตลาดที่ระดับ 1.1649/51 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากราคาปิดตลาดในวันพุธ (18/7) ที่ระดับ 1.674/76 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยเมื่อวานนี้ ได้มีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคของยูโรโซนประจำเดือนมิถุนายน ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.0% เท่ากับเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และสำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคถื้นฐาน ออกมาอยู่ที่ระดับ 0.9% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 1% ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 1.1602-1.1657 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1.1611/12 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

ในส่วนของค่าเงินเยนวันนี้ (19/7) เปิดตลาดที่ระดับ 112.75/77 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากราคาปิดตลาดในวันพุธ (18/7) ที่ระดับ 112.94/96 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อเช้าที่ผ่านมากระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้มีการเปิดเผยตัวเลขดุลการค้าประจำเดือนมิถุนายน โดยมียอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ระดับ 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วยยอดส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี และสำหรับยอดนำเข้านั้นเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีเช่นกัน ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 112.64-113.04 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 112.98/99 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องจับตาดูในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐ (19/7), ดัชนีภาคการผลิตเฟดฟิลาเดลเฟีย (19/7)

Advertisment

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.80/-1.6 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.65/-0.25 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ