กรุงไทยเผยฐานข้อมูลถูกแฮกส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเงินสด-ที่อยู่อาศัย

กรุงไทยระบุข้อมูลลูกค้าถูกเจาะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย-สินเชื่อเงินสด (Super Easy) ด้าน “ผยง” เผยแบงก์ยกระดับเตรียมพร้อมระบบมาตรฐานความปลอดภัยรองรับทุกมิติ เตือน! ปชช.ดูแลรหัสต่างๆให้ดี เพราะแฮกเกอร์เป็นสิ่งที่คู่กับสังคมในยุคดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ทันทีที่ธนาคารพบร่องรอยของแฮกเกอร์ (Hacker) ที่ได้ทำการเจาะเข้าระบบฐานข้อมูลลูกค้าแบงก์ ธนาคารได้รีบดึงผู้ชำนาญการระดับโลกเข้ามาตรวจสอบระบบได้อย่างทันถ่วงที และได้รายงานต่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รับทราบ ซึ่งหลังจากตรวจสอบพบว่า ข้อมูลที่ถูกแฮกนั้นเป็นข้อมูลพื้นฐานเท่านั้น และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเงินสด (Super Easy) โดยธนาคารได้แจ้งผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้ทราบผ่านช่องทาง SMS, อีเมล์, จดหมาย และคอนเซ็นเตอร์ (Call center) ซึ่งลูกค้าต่างพอใจกับการที่ธนาคารติดต่อกลับไปแจ้งข่าว และแสดงความรับผิดชอบหากเกิดความเสียหายตามมา ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่ได้มีความเสียหายเกิดขึ้น แต่ธนาคารการได้เตรียมพร้อมที่จะยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อให้พร้อมเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงทางไซเบอร์ (Cyber) รูปแบบใหม่ในทุกมิติ โดยงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับไอทีกว่า 10,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งจะเกี่ยวกับระบบป้องกัน Cyber Securities อยู่แล้ว

“สิ่งที่ธนาคารได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ คือ การเข้าถึงระบบข้อมูลของธนาคารส่วนใหญ่จะเป็นระบบเดิม หรืออาจจะเป็นข้อมูลเก่าที่ค้างอยู่ในฐานข้อมูลด้วยสัญญาณขั้นสูงจึงถูกสะกิดให้ฟื้นขึ้นมา ซึ่งสิ่งที่น่าดีใจคือระบบเฝ้าเตือนที่ธนาคารเร่งสร้างมาระยะหนึ่งถือว่าสามารถทำงานได้ดีโดยการส่งสัญญาณให้ทราบได้ว่าระบบกำลังถูกรบกวน” นายผยงกล่าว

แต่อย่างไรก็ตาม นายผยง กล่าวว่า ตัวแฮกเกอร์เป็นสิ่งที่คู่กับสังคมทุกภาคส่วนในยุคดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงต้องป้องกันระบบปลอดภัยในทุกมิติ และสแกนระบบภายในทุกตารางนิ้ว จึงแนะนำว่าลูกค้าควรจะดูแลรหัสต่างๆ ให้ดี ซึ่งตอนนี้ธนาคารมั่นใจในกลไกการเฝ้าระมัดระวัง เช่น ทุกการเปลี่ยนรหัสผ่าน โดยอยู่บนข้อมูลสำคัญ เช่น หมายเลขบัตรเอทีเอ็ม การใช้ OTP เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนอย่างปลอดภัย
ส่วนกรณีที่มีคนนำหมายเลขบัตรทั้งด้านหน้าและหลังของบัตรเครดิตและบัตรเดบิตเพื่อซื้อเกมออนไลน์ ถือเป็นเรื่องของการโกงภายใต้แวดล้อมของ e-commerce ซึ่งเกิดได้ในทุกกรณี โดยแนะนำให้ระมัดระวังรหัส 3 หลักข้างหลังบัตร โดยอาจจะนำสติ๊กเกอร์มาปิดไว้เพื่อป้องกันการนำเลขบัตรไปก่อให้เกิดความเสียหายในอนาคต