ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า หลังยอดขาดดุลการค้าสหรัฐ ลดลงในเดือนพฤศจิกายน

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (7/2) ที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดในวันพุธ (6/2) ที่ระดับ 31.22/24 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงในเดือนพฤศจิกายนสู่ระดับ 4.93 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขาดดุลที่ระดับ 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ขาดดุลเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 5 เดือน โดยตัวเลขขาดดุลการค้าปรับตัวลงจากนำเข้าโทรศัพท์มือถือ และผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ลดลงเป็นหลัก

นอกจากนี้ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐ กับจีนได้ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 3.79 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายน จากระดับ 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนตุลาคม ทางด้านนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แถลงนโยบายประจำปี (State of the Union Address) เมื่่อวานนี้ (6/2) โดยเขาได้แสดงความเชื่อมั่นในความคืบหน้าของการเจรจาการค้าดังกล่าว โดยนายมนูชินและคณะเจรจาการค้าของสหรัฐจะเดินทางไปเยือนจีนในสัปดาห์หน้าเพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 มีนาคม อีกทั้งระบุว่า การเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีีจีน มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี นอกจากนี้นายมนูชินได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เศรษบกิจสหรัฐกำลังขยายตัวได้ดี ซึ่งเป็นไปตามแผนเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 31.24-31.29 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.25/27 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (7/2) ที่ระดับ 1.1363/65 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (6/2) ที่ระดับ 1.1389/91 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยเมื่อวาน (6/2) มีรายงานดัชนีการสั่งบซื้่อสินค้าเพื่อการผลิตของเยอรมนีในเดือนธันวาคมออกมาลดลงร้อยละ 1.6 จากเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 อีกทั้งในวันนี้ (7/2) มีรายงานดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือนธันวาคม ซึ่งออกมาลดลงร้อยละ 0.4 จากเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสวนทางกับระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1336-1.1374 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1343/45 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (7/2) ที่ระดับ 109.89/91 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุุธ (6/2) ที่ 109.64/65 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินเยนอ่อนค่าสวนทางกับเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวลดลงและความคิดเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าของนายสตีเวน มนูชิน ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 109.71-110.08 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 110.01/03 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) (7/2), ยอดค้าปลีกของอิตาลี (7/2), รายงานจำนวนคนที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน (7/2), การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่น (7/2), ดุลการค้าเดือนธันวาคมของเยอรมนี (8/2), และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธันวาคมของฝรั่งเศส (8/2)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.10/-2.00 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -1.00/-0.60 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ