นายพบชัย ภัทราวิชญ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 20 ก.พ.62 ปิดตลาดที่ดัชนี 1,645.38 จุด เพิ่มขึ้น 9.67 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.59% และมีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่สุดในรอบเกือบหนึ่งเดือนที่ 58,414.26 ล้านบาท (24 ม.ค.62 มูลค่าการซื้อขายรวม 60,838.32 ล้านบาท) โดยประเมินว่าได้รับผลบวกมาจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ที่ปิดบวกเกือบทุกตลาด ขณะที่ดัชนีของแต่ละตลาดเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้
ส่วนกลุ่มที่บวกขึ้นนำตลาดหุ้นไทย ได้แก่ กลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวขึ้นค่อนข้างสูง แต่ราคาหุ้นยังสะท้อนไปไม่มากนัก ส่งผลให้วันนี้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ PTT (+1.03%) PTTEP (+1.62%), กลุ่มขนส่ง AOT (+2.24%) และกลุ่มปิโตรเคมี PTTGC (+3.61%) จึงเห็นดัชนีปรับขึ้นค่อนข้างแรงในช่วงบ่าย เนื่องจากมีแรงไล่ซื้อในกลุ่มดังกล่าว ส่วนกลุ่มที่ปรับลดลง คือ กลุ่มไอซีที (ICT) เนื่องจาก ADVANC มีการขึ้นเครื่องหมาย XD วันนี้
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ด้านปัจจัยแวดล้อมที่ต้องติดตาม ได้แก่ การเจรจาการค้าที่คาดว่าจะมีการเจรจากันต่อเนื่องที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกประเทศ และผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ซึ่งเป็นปัจจัยภายในประเทศ
ส่วนทิศทางของตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.62) ประเมินกรอบเคลื่อนไหวของดัชนีที่บริเวณแนวรับ 1,635 จุด และบริเวณแนวต้าน 1,655 จุด โดยคาดว่าดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องจากโมเมนตัมเชิงบวก อย่างไรก็ตาม อาจเห็นการเคลื่อนไหวไซด์เวย์ (Sideway) ออกข้าง เนื่องจากแนวต้านที่ 1,663 จุด ยังคงเป็นแนวต้านสำคัญ แนะนำนักลงทุนที่ยังไม่มีหุ้นในพอร์ตเข้าซื้อสะสมที่บริเวณปัจจุบัน หรือรออ่อนตัวแล้วเข้าซื้อสะสม เพื่อไปรอขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,663 จุด ส่วนนักลงทุนที่มีต้นทุนบริเวณปัจจุบันแนะนำถือต่อเพื่อรอปันผล
ด้านกลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นกลุ่มปันผลสูง ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่มูลค่าหุ้น (Valuation) น่าสนใจและมีอัตราผลตอบแทน (Dividend Yield) สูง แนะนำซื้อ LH และ QH, กลุ่มธนาคาร แนะนำเข้าซื้อสะสม BBL และ KKP, กลุ่มปิโตรเคมี PTTGC และแนะนำรายตัว THANI เนื่องจากมีปันผลที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน นอกจากนี้ยังแนะนำกลุ่มพลังงานที่อิงกับราคาน้ำมัน ได้แก่ PTTEP และ PTT
