วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ รายงานราคาทองคำ วันที่ 17 ก.ย. 2562

ปัจจัยพื้นฐาน

ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น  9.62  ดอลลาร์ต่อออนซ์  จากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง  หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันสองแห่งของซาอุดิอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาซึ่งกระทบต่ออุปทานน้ำมันทั่วโลกจนหนุนให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นเกือบ 15%  นอกจากนี้เหตุการณ์ดังกล่าวยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอิหร่านยิ่งเลวร้ายลงไปอีก  เนื่องจากผลการตรวจสอบเบื้องต้นจากกลุ่มพันธมิตรชาติอาหรับพบว่า โดรนที่ใช้ในการโจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดีอาระเบียเป็นของอิหร่าน และโดรนดังกล่าวไม่ได้ถูกปล่อยขึ้นจากทางเยเมน  ขณะที่สหรัฐเรียกร้องให้นานาชาติรวมตัวกันเพื่อตอบโต้การกระทำที่ชั่วร้ายของอิหร่าน  ซึ่งสถานการณ์ความตึงเครียดดังกล่าวกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทำให้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 140 จุด  พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจนราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,512  ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขาย  ก่อนที่ราคาทองคำจะลดช่วงบวกลงจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์  ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไรเพื่อปรับสถานะพอร์ตลงทุนก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ  อาทิ  การผลิตภาคอุตสาหกรรม และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย. โดย NAHB

ปัจจัยทางเทคนิค

หากราคาทองคำยังคงพยายามกลับขึ้นไปทดสอบเหนือ 1,512-1,515 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มจะขึ้นทดสอบ 1,524 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถปรับขึ้นได้ จะเกิดแรงขายออกมาเป็นระยะ โดยแนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่ 1,489-1,485  ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับสำคัญจะอยู่บริเวณ 1,479 ดอลลาร์ต่อออนซ์

หากยังไม่สามารถผ่าน 1,515-1,524 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ อาจใช้วิธีการเดิมคือลดพอร์ตสถานะซื้อลง และสำหรับนักลงทุนที่เก็งกำไรฝั่งซื้อระยะสั้น ยังคงต้องตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ล่วงหน้าให้ชัดเจน โดยรอเปิดสถานะซื้อในบริเวณ 1,489-1,485 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,479 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

คำแนะนำ ความแข็งแกร่งของราคาทองคำและแรงซื้อน้อย ระยะสั้นราคาเคลื่อนไหวในกรอบ โดยรอจังหวะการอ่อนตัวลงของราคาแล้วค่อยเข้าซื้อ หรือ  หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,512-1,515 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน