บล.กสิกรไทย ปักธง BAM เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯปีนี้ รอ ก.ล.ต.กดปุ่มนับหนึ่งไฟลิ่ง เดินหน้าโรดโชว์ 3 ทวีป “เอเชีย-ยุโรป-อเมริกา” ฟาก บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มอง BAM เข้าตลาดสร้างโมเมนตัมบวกกลุ่มไฟแนนซ์
นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) เปิดเผยว่า ตั้งเป้านำหุ้น BAM เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ทันในปี 2562 นี้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอ ก.ล.ต.ประกาศนับหนึ่งไฟลิ่ง หลังจากนั้นจะมีการเดินสายนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนในต่างประเทศ (โรดโชว์) ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง อังกฤษ และสหรัฐ ซึ่งจะอยู่ภายใต้การดูแลของ บล.ยูบีเอส (ประเทศไทย) FA อีกราย
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
“การที่ต้องไปโรดโชว์ต่างประเทศเพราะหุ้นไอพีโอมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ซึ่งเราพยายามเสนอหุ้น BAM ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มนักลงทุนให้ได้มากที่สุด”
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น IPO ของ BAM ที่จะเข้าเทรดในตลาดหุ้นไทย น่าจะเป็นโมเมนตัมบวกต่อภาพรวมของกลุ่มไฟแนนซ์ที่จะทำให้การประเมินมูลค่า (valuation) ดูปลดล็อกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจริง ๆ ธุรกิจการเก็บหนี้ค่อนข้างเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ดี ประกอบกับเป็นตลาดที่ใหญ่มาก แม้ว่า BAM จะเป็นเจ้าตลาดแต่การเข้ามาของ BAM ก็ไม่ได้เป็นลบต่อบริษัทที่ทำธุรกิจจัดเก็บหนี้ในกลุ่มเดียวกัน
“ตอนนี้จะมีแค่ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส หรือ JMT กับ บมจ.ชโย กรุ๊ป หรือ CHAYO ที่ทำธุรกิจนี้ แต่ว่า CHAYO จะไม่ได้เข้ามาเล่นกับตลาดของ BAM มากนัก ในขณะที่ JMT เริ่มเข้าไปแย่งเค้กชิ้นเล็ก ๆ ในตลาดของ BAM จากเดิมที่ทำธุรกิจเก็บหนี้ไม่มีหลักประกัน อาทิ สินเชื่อ, บัตรเครดิต แต่ช่วงหลังเริ่มกระโดดเข้ามาอยู่ในเซ็กเตอร์อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมองว่าจะเอื้อต่อธุรกิจด้วยกัน ไม่ได้มาแย่งกันรุนแรง เพราะตลาดค่อนข้างใหญ่”
ทั้งนี้ หุ้น IPO ที่ BAM เสนอขาย ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 280 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเดิมไม่เกิน 1,255 ล้านหุ้น และอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (greenshoe) ไม่เกิน 230 ล้านหุ้น รวมไม่เกิน 1,765 ล้านหุ้น คิดเป็น 54.4% ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว
