ธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งบริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 1OX) ลุยสร้างการเติบโตรูปแบบใหม่ ชู ภารกิจสำคัญ “Moonshot Mission” มุ่งการลงทุนรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เผย “Venture Builder” จ่อลงทุน 2 บริษัท เฉลี่ย 5-10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานกรรมการ บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค ธนาคารจึงต้องเร่งหาโอกาสเติบโตทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ และหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อนุมัติให้ตั้งบริษัทใหม่อย่าง “เอสซีบี เท็นเอกซ์” (SCB 1OX) บริษัทในกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งอยู่ในรูปแบบของโฮลดิ้งคอมพานี (Holding Company) ที่จะเข้ามาดูแลบริษัทด้านเทคโนโลยีที่อยู่ในกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ทั้งหมด เช่น ดิจิทัล เวนเจอร์ส (Digital Ventures) เอสซีบี อบาคัส (SCB Abacus) และมันนิกซ์ (MONIX) รวมถึงบริษัทด้านเทคโนโลยีที่จะจัดตั้งหรือลงทุนในอนาคต โดยตั้งงบลงทุนรวม 2 หมื่นล้านบาท สำหรับใช้ในระยะเวลา 3 ปี
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
“หากธนาคารต้องการทดลองอะไรใหม่ๆ อาจจะกระทบต่อการเติบโตและกำไรได้ ทำให้มีแรงกดดันต่อการทดลอง เราจึงไม่สามารถทำบนธนาคารได้ ดังนั้น ธนาคารจะต้องใช้ศักยภาพที่ธนาคารมีอยู่ คือ ฐานลูกค้ากว่า 16 ล้านคน และเป็นฐานลูกค้าดิจิทัลกว่า 10 ล้านคน เข้าร่วมกับพันธมิตรหรือผู้ประกอบการที่มีไอเดียและความพร้อมในด้านที่ธนาคารไม่มี ธนาคารจึงตั้งบริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวที่จะสามารถไปลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่มีไอเดียรายละ 50-100 ล้านบาท และบริษัทนี้จะไประดมทุนอีกหลายราย ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว”
ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ และผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า บทบาทหน้าที่ของ SCB 1OX จะมุ่งเน้นการสร้างขีดความสามารถใหม่ทางด้านเทคโนโลยีผ่านการลงทุนที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด (Invest in Exponential Opportunities) ภายใต้ภารกิจที่เรียกว่า “Moonshot Mission” (มูนช็อต มิชชั่น) คือ การคิดและทำในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นหรือมีมาก่อน มองเห็นความต้องการของตลาดในอนาคต และนำพาองค์กรไปถึงจุดนั้นก่อนใคร
ดังนั้น เพื่อไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผ่าน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. Venture Builder (VB) คือ การลงทุนร่วมสร้างธุรกิจประเภทเทคสตาร์ทอัพใหม่ๆ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ในอุตสาหกรรมธนาคาร และเป็นตัวขับเคลื่อนหลักทางธุรกิจของบริษัทในการสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด และถ้าเจ้าของไอเดียหรือผู้ที่เข้าร่วมงานสามารถสร้างไอเดียจนสำเร็จ จะมีโอกาสร่วมเป็นเจ้าของบริษัทด้วย (Share ownership)
2.Strategic Investment and Partnership คือ การร่วมลงทุนทางยุทธศาสตร์ และการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับบริษัทด้านเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงมุ่งหาโอกาสในการสร้างธุรกิจด้านเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาขีดความสามารถและสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจ และ 3.Venture Capital (VC) คือ การลงทุนในบริษัทเทคคอมพานี และสตาร์ทอัพทั่วโลก เน้นการลงทุนที่สามารถช่วยให้บริษัทหรือสตาร์ทอัพเหล่านั้นเติบโตยิ่งขึ้น
“วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท เราใช้ไปประมาณ 25% ใช้เวลา 2-3 ปี โดยหลักๆ จะมาจาก VB ที่เฉลี่ยการลงทุนอยู่ที่ 5-10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่น่าจะเข้ามาประมาณ 2 บริษัท ขณะที่ JV ลงทุนโดยตรงผ่านการเป็นพันธมิตรที่อาจจะใช้วงเงินมากว่า VB ซึ่งก็น่าจะเข้ามาประมาณ 2 บริษัทเช่นกัน โดย SCB 10X ถือหุ้น 60-70% และตอนนี้ ดิจิทัล เวนเจอร์ส และเอสซีบี อบาคัส กำลังระดมทุนอยู่”
