“บล.เอเซีย พลัส” ชี้ฝรั่งขายหุ้นไทย 1.73 หมื่นล้านบาท กดดันดัชนีตลาดปรับฐานลดลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี จ่อลดประมาณการณ์กำไรบจ.ปี’63 เหลือ 9.68 แสนล้านบาท จากเดิมคาดโต 1 ล้านล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า เม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ยังไหลออกจากตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ล่าสุดมียอดขายสุทธิ (Net Sell) 1.73 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) กดดันให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปรับฐานลงมาทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- เปิด 20 อันดับโรงพยาบาลดีที่สุดในไทย ปี 2567
- กระทรวงเกษตรฯ ปลดล็อกการนำเข้าโคเนื้อ-กระบือจากประเทศเมียนมา
หากประเมินจากสถานการณ์แวดล้อมทางพื้นฐานจะเห็นว่ามีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบทางลบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้งจากการใข้มาตรฐานการบัญชี TFRS16 เรื่องสัญญาเช่า ซึ่งมีผลต่อทั้งงบกำไรขาดทุนและโครงสร้างการเงิน นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มภาคการผลิต (Real Sector) อีกบางส่วนที่ได้รับผลกระทบทางลบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่ โดยประมาณการเดิมของฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรสุทธิงวดปี 2563 จะอยู่ที่ราว 1.0 ล้านล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ระดับ 95.70 บาทต่อหุ้น
ในเบื้องต้นฝ่ายวิจัยได้มีการทำประมาณการกำไร (Earning Preview) และมีการปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลง ประกอบไปด้วยบริษัทขนาดใหญ่ 10 บริษัท แบ่งเป็นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และหุ้นบางบริษัทในกลุ่มสื่อสาร (ICT) กลุ่มการเงิน รวมถึงหุ้นสนามบิน
เมื่อหักลบกับประมาณการเดิมส่งผลให้คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 2563 ลดลงจาก 1 ล้านล้านบาท เหลือ 9.68 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นเป็น EPS ที่ระดับ 92.62 บาทต่อหุ้น (ยังเติบโตเล็กน้อย 0.5% เมื่อเทียบกับ EPS ปี 2562) ซึ่งฝ่ายวิจัยมีแผนที่จะปรับลดประมาณการตัวเลขกำไรสุทธิและกำไรต่อหุ้นปี 2563 หลังการประกาศงบการเงินงวดปี 2562 เสร็จสิ้น ถือเป็นความเสี่ยงขาลง (Downside Risk) ต่อดัชนีตลาดฯ
