คลังเผยร้านค้าร่วม ‘คนละครึ่ง’ พุ่ง 1.7 แสนแห่ง ยันมีระบบตรวจสอบทุจริต

คลัง เผยร้านค้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” สะสม 1.7 แสนแห่ง พร้อมเปิดลงทะเบียนต่อเนื่องไม่จำกัดเวลา ยันมีระบบตรวจสอบทุจริต ป้องกันการฮั้วกันระหว่างร้านค้า-ผู้บริโภค

นายลวรณ แสงสนิท โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง ที่เปิดให้ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com โดยล่าสุด มีผู้ประกอบการร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 170,000 ร้าน แบ่งเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม จำนวน 100,000 ร้าน ร้านธงฟ้า 40,000 ร้าน และร้านชายของทั่วไป 20,000 ร้าน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการภาคประชาชนที่ดี

“ร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ยังสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์คนละครึ่ง.com ได้อย่างต่อเนื่องแบบไม่มีการจำกัดเวลา เนื่องจากรัฐต้องการให้ร้านค้ารายย่อยเข้าร่วมโครงการให้มากที่สุด เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนในร้านค้ารายเล็กอย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไปในตัวด้วย”

นายลวรณ กล่าวว่า สำหรับประชาชนผู้ที่มีสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีบัตรประจำตัวประชาชน จะสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00 น. – 23.00 น. จำกัดจำนวนไม่เกิน 10 ล้านคน เมื่อครบตามจำนวนที่จำกัดไว้แล้วจะปิดให้ลงทะเบียนทันที

โดยผู้ได้รับสิทธิต้องยืนยันตัวตนผ่านกระเป๋าเงิน อิเล็กทรอนิกส์ คือ แอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ก่อน จึงจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการเพื่อรับสิทธิได้ ซึ่งจะเปิดให้ใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2563 ในเวลา 06.00 น. – 23.00 น. ซึ่งผู้ได้รับสิทธิจะต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ได้รับข้อความแจ้งรับสิทธิ หรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ ไม่อย่างนั้นจะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนใหม่ได้ โดยสิทธิที่ถูกตัดจะนำไปเปิดให้ลงทะเบียนกับผู้สนใจใหม่อีกครั้ง

Advertisment

“ในด้านระบบการลงทะเบียน ขณะนี้ธนาคารกรุงไทยได้จัดการเตรียมความพร้อมระบบ เพื่อรองรับการใช้งานของทั้งผู้ลงเบียนร้านค้าและประชาชนที่สนใจ โดยยืนยันว่าระบบมีความพร้อมใช้งาน และมีความเสถียรมากขึ้น ซึ่งจะไม่ล่มในช่วงเปิดให้ลงทะเบียนพร้อมกันของประชาชนที่สนใจแน่นอน ในส่วนของความกังวลด้านการทุจริต การใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ หรือการฮั้วกันระหว่างร้านค้าและผู้บริโภค ยืนยันว่าระบบมีการตรวจสอบความผิดปกติในการใช้จ่ายตลอดเวลา ซึ่งหากพบพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ผิดปกติ จะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบทันที จึงยืนยันว่าไม่มีความน่ากังวลในเรื่องนี้” นายลวรณ กล่าว