“ศรีสุวรรณ” ร้อง “รมว.คมนาคม” ระงับสหพันธ์ขนส่งฯปรับขึ้นราคาขนส่งสินค้า ชี้ผลักภาระให้ผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์เรื่อง คัดค้านสหพันธ์ขนส่งฯปรับขึ้นราคาค่าขนส่งทุกประเภทซ้ำเติมประชาชน โดยแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยมีมติปรับขึ้นราคาค่าขนส่งสินค้าทุกประเภทร้อยละ 5 มีผลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป โดยอ้างว่าการปรับราคาขึ้นครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากกระทรวงคมนาคมก่อน เพราะการประกอบการขนส่งรถบรรทุกเป็นลักษณะของการขอใบอนุญาตประกอบการ ไม่ใช่การขอรับสัมปทาน ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าและบริการทั่วประเทศมีภาระต้นทุนเพิ่มมากขึ้น

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า ความจริงแล้วรถบรรทุกส่วนใหญ่หันไปใช้ก๊าซ NGV และก่อนหน้ารัฐบาลนี้ราคาน้ำมันดีเซลมีราคามากกว่า 30 บาทต่อลิตรก็ยังอยู่กันได้ แต่ในขณะนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 28 บาทเท่านั้นกลับมาใช้เป็นข้ออ้างขึ้นราคา ส่วนข้ออ้างว่าการจราจรติดขัดทำให้รถบรรทุกทำรอบได้เพียง 1 รอบต่อวันนั้น ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯเป็นวิกฤตการณ์ที่เกิดมาตลอดและจะยังคงเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนต่างรับรู้ความเสี่ยงในปัญหานี้ การใช้เหตุเหล่านี้เป็นข้ออ้างจึงไม่สมเหตุสมผล หากแต่เป็นการผลักภาระทั้งหมดไปให้ผู้บริโภค ซ้ำเติมประชาชนในยุครัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)

ดังนั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงเรียกร้องมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตาม ม.19 ประกอบ ม.22 แห่งพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ได้สั่งการให้ระงับการปรับขึ้นราคาค่าขนส่งทุกประเภทตามที่สหพันธ์ขนส่งฯได้ประกาศไป และให้ดำเนินการเอาผิดผู้ประกอบการขนส่งต่าง ๆ ดังกล่าวที่ฝ่าฝืนและดำเนินการไปโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้คืนเงินค่าขนส่งที่เก็บไปแล้วก่อนหน้านี้ทุกบาททุกสตางค์ เพื่อรักษาระดับราคาสินค้าและบริการที่จะพาเหรดกันขึ้นราคาอันเนื่องมาจากการปรับราคาค่าขนส่งขึ้นดังกล่าวด้วย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หากข้อเรียกร้องนี้ไม่ได้รับการตอบสนองภายใน 30 วัน สมาคมฯจะถือว่ากระทรวงคมนาคมและคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง ส่อเจตนาในการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการเอกชน อันส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 ซึ่งสมาคมฯจะขอใช้สิทธิในการร้องเรียนและยื่นฟ้องต่อศาลปกครองและหรือศาลทุจริตคอรัปชั่นต่อไป

ที่มา มติชนออนไลน์

Advertisment