เสียงแตก!! จ่ายเงินสมทบประกันสังคมเพิ่มเดือนละ 800-1,000 บาท

หลังจากสำนักงานประกันสังคม(สปส.) ประกาศกรณีความคืบหน้าการขับเคลื่อนนโยบายเพิ่มเพดานเงินเดือนสำหรับเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม โดยระบุว่า ได้ทำความเข้าใจไปแล้วมากกว่าครึ่ง ซึ่งหากผู้ประกันตนเห็นด้วยเกินร้อยละ 80 น่าจะสามารถเดินหน้าได้ โดยต้องมีการแก้พ.ร.บ.ประกันสังคมต่อไป

โดยหลักๆ คือ การเก็บเงินสมทบยังคงเก็บในอัตราร้อยละ 5 เหมือนเดิม เพียงแต่จะมีการขยายฐานเพดานเงินเดือน ในการคำนวณเงินสมทบจาก 1.5 หมื่นบาท เป็น 2 หมื่นบาท สรุปดังนี้

คนที่ฐานเงินเดือนอยู่ที่ 15,000 บาท ก็จ่ายเท่าเดิมคือ 750 บาทต่อเดือน

คนที่ฐานเงินเดือนอยู่ที่ 16,000 บาท ก็จ่ายสมทบเพิ่มเป็น 800 บาทต่อเดือน

คนที่ฐานเงินเดือนอยู่ที่ 17,000 บาท ก็จ่ายสมทบเพิ่มเป็น 850 บาทต่อเดือน

คนที่ฐานเงินเดือนอยู่ที่ 18,000 บาท ก็จ่ายสมทบเพิ่มเป็น 900 บาทต่อเดือน

คนที่ฐานเงินเดือนอยู่ที่ 19,000 บาท ก็จ่ายสมทบเพิ่มเป็น 950 บาทต่อเดือน

คนที่ฐานเงินเดือน 20,000 บาท ก็จ่ายสมทบเพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อเดือน

ล่าสุดเมื่อวันที่  15 มิถุนายน  นายสมพร   ขวัญเนตร รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.)  กล่าวถึงการเดินหน้านโยบายดังกล่าว ว่า นโยบายนี้บอกตรงๆว่า ไม่เห็นด้วย เพราะไม่ได้แก้ปัญหาให้คนเงินเดือนน้อย แต่ไปเน้นให้คนที่มีเงินเดือนมากอยู่แล้ว แบบนี้ยิ่งเกิดช่องว่างระหว่างคนที่มีฐานเงินเดือนน้อยกับคนที่มีฐานเงินเดือนสูง ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าการเดินหน้านโยบายนี้เป็นการตอบโจทย์ในการลดความเหลื่อมล้ำอย่างไร  ซึ่งการบอกว่าการจ่ายเงินสมทบเพิ่มเป็นสิทธิของผู้ประกันตนที่มีฐานเงินเดือนสูง มีสิทธิจ่ายเพิ่มเพื่อประโยชน์เรื่องเงินออมตอนชราภาพ  เรียกว่าเป็นเงินใช้ตอนสูงวัย แต่ถามว่าแก้ปัญหาถูกจุดหรือไม่ ไม่ใช่ เนื่องจากคนเงินเดือนน้อย ชีวิตความเป็นอยู่ก็ไม่ได้ดีมาก ยิ่งอายุมากขึ้น เงินออมก็น้อยอยู่แล้ว แล้วรัฐจะไม่ช่วยเหลือเลยหรืออย่างไร

“รัฐควรจ่ายสมทบเพิ่มช่วยทั้งหมด โดยก่อนอื่นสำนักงานประกันสังคมต้องคำนวณก่อนว่า หากชราภาพต้องมีเงินไว้ใช้รายเดือนเท่าไหร่ และรัฐควรต้องจ่ายสมทบตรงนี้เพิ่ม แต่การไปขยายฐานและให้คนมีเงินเดือนสูงๆจ่ายเพิ่ม มองอีกมุมคือ สำนักงานประกันสังคมก็เอาเงินไปหมุนก่อนหรือไม่ ซึ่งหากจะเดินหน้าต่อ พวกตนก็จะคัดค้าน” นายสมพร กล่าว

ด้าน นายมนัส โกศล ประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน(คปค.) กล่าวว่า ทางกลุ่มเห็นด้วย เนื่องจากการเพิ่มตรงนี้ไม่ได้ไปกระทบผู้ประกันตนทั้งหมด แต่จะช่วยเพิ่มให้ผู้ประกันตนมีเงินเก็บยามชรา และเข้าใจว่าตอนนี้ก็ยังไม่ได้ประกาศใช้ ยังอยู่ในกระบวนการทำ และต้องแก้พ.ร.บ.ประกันสังคมฉบับที่ 5 อีกครั้ง

ที่มา:มติชนออนไลน์