“บิ๊กโจ๊ก” ลุยปราบต่างด้าวผิดกฎหมาย-นักธุรกิจต่างชาติเลี่ยงกฎหมายใช้ “นอมินี”

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 ตุลาคม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สวนพลู พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รรท.ผบก.สส.สตม. และตำรวจสตม. ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) แถลงผลการกวาดล้างจับกุมตัวบุคคลต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 59 คน

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่รัฐบาลได้กำชับให้ระดมกวาดล้างจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ตามพ.ร.บ.คนเข้าเมืองพ.ศ.2522 และพ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวพ.ศ.2560 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2561) และชาวต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจที่หลีกเลี่ยงกฎหมายโดยใช้ “นอมินี” หรือ “ตัวแทนอำพราง” ทางบก.สส.สตม. ร่วมกับบก.ตม.1 ดำเนินการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ในเขตพื้นที่ห้วยขวาง ซอยนานา และถนนข้าวสาร มีผลปฏิบัติการจับกุมนายจ้างและแรงงานต่างด้าวที่กระทำความผิดจำนวน 59 คน ประกอบด้วย สัญชาติ ไทย จีน เมียนมา เนปาล ปากีสถาน บังคลาเทศ อียิปต์ ปาเลสไตน์ ซีเรีย ไนจีเรีย บุคคลซึ่งไม่มีสถานะทางทะเบียน

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ในความผิดข้อหา ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน 7 ราย (จีน 3 ไร้สัญชาติ 1 เมียนมา 2 ไนจีเรีย 1 ) ทำงานนอกเหนือจากสิทธิ 22 ราย (เมียนมา 22) เข้ามาในราชอาณาจักรและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 7 ราย (เมียนมา7) ไม่แจ้งที่พัก 90 วัน 3 ราย (ซีเรีย 1 เมียนมา2) เป็นนายจ้างรับคนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตเข้าทำงาน 3 ราย (ไทย2 บังคลาเทศ1) เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต 9 ราย (เมียนมา2 ไร้สัญชาติ 1 อียิปต์ 1 ปาเลสไตน์ 1 บังคลาเทศ 3 ปากีสถาน 1) ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานออกนอกเขตพื้นที่ 2 ราย (จีน 1 ไร้สัญชาติ1) ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานออกนอกเขตพื้นที่และทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 3 ราย(ไร้สัญชาติ3) ไม่แจ้งที่พัก 90 วัน,ทำงานนอกเหนือสิทธิ และ ไม่แจ้งนายทะเบียนเกี่ยวกับการทำงาน ภายใน 15 วัน นับแต่วันทำงาน 1 ราย (จีน 1)ให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิและไม่แจ้งคนต่างด้าวเข้าทำงาน 2 ราย(ไทย2)

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศดำเนินการสืบสวนปราบปรามจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และชาวต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจ ที่หลีกเลี่ยงกฎหมายโดยใช้ “นอมินี”หรือ“ตัวแทนอำพราง” อย่างจริงจังและต่อเนื่อง สำหรับคนต่างด้าวที่กระผิดดังกล่าวจะได้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อไป ส่วนในกรณีที่สงสัยว่าการประกอบธุรกิจที่คนไทยขออนุญาตประกอบธุรกิจซึ่งอาจจะเป็นนอมินี หรือ “ตัวแทนอำพราง” พนักงานสอบสวน จะได้ทำการสอบสวนขยายผลต่อไป

Advertisment

 

ที่มา : มติชนออนไลน์