SCB ดึง AI นำร่อง 3 บริการ ชู ปล่อยกู้สินเชื่อ 100% หวังลดหนี้เสีย-ดันรายได้ดิจิทัลปีนี้ 15%

SCB

ธนาคารไทยพาณิชย์ ต่อยอดกลยุทธ์ “Digital Bank with Human Touch” สู่การเป็น “AI-First Bank” ดึง AI นำร่อง 3 บริการ “ปล่อยสินเชื่อ-แจ้งเตือนลงทุน-แนะนำกองทุน” เผย ปล่อยกู้ใช้ AI 100% รู้ผลภายใน 10 นาที เสนอดอกเบี้ยเหมาะสม-หวังลดหนี้เสีย ดันรายได้ดิจิทัลปีนี้ 13-15% และปี’68 อยู่ที่ 25% พร้อมตั้งเป้าขอโตสินเชื่อรวม 1-2% เจาะกลุ่มโต-เร่งเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าฟี

วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายใต้การดำเนินกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch มีเป้าหมายการเป็นดิจิทัลแบงก์ที่เป็นอันดับหนึ่งด้านการบริหารความมั่งคั่ง พร้อมมอบประสบการณ์การให้บริการที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อในทุกช่องทางให้กับลูกค้า สู่การเป็น AI-First Bank นำเทคโนโลยี AI ขับเคลื่อนองค์กรแบบ 360 องศา โดยเป็นธนาคารแรก

โดยได้กำหนดการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ภายใต้โมเดล Better Brain นำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาพัฒนาใช้งานวางรากฐานบริการโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สร้างบริการที่รู้จักรู้ใจลูกค้าเป็นรายบุคคล (Hyper-personalization) เข้าถึงบริการได้อย่างสะดวกผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลของธนาคาร (Always available) และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า (Better customer experience) ซึ่งเบื้องต้นได้นำมาใช้ใน 3 บริการ ได้แก่ 1.การอนุมัติสินเชื่อ 2.บริการแจ้งเตือนการลงทุน และ 3.แนะนำกองทุน

โดยนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 ธนาคารได้นำ AI มาใช้อนุมัติสินเชื่อรายย่อย 100% ในกลุ่มสินเชื่อเพื่อธุรกิจให้กับบุคคลธรรมดา ผ่าน “สินเชื่อ Up ทันใจ” ซึ่งใช้ AI ปล่อยแบบต้นจนจบ (End to End) ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการอนุมัติจาก 7 วัน เหลือไม่เกิน 10 นาที และไม่ต้องใช้เอกสารรายได้ย้อนหลัง 6 เดือน เพียงแค่มีการเดินบัญชีผ่านธนาคาร โดย AI จะมีการวิเคราะห์และอนุมัติสินเชื่อและเสนออัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับความเสี่ยง และช่วยลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ลดลงได้ในอนาคต

SCB

Advertisment

ทั้งนี้ หากดูข้อมูลล่าสุดจำนวนฐานลูกค้าของธนาคารอยู่ที่ 17.8 ล้านคน โดยในจำนวนดังกล่าว 84% ใช้บริการ SCB Easy App ซึ่งมีจำนวนธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลอยู่ที่ 23% และมียอดขายกรมธรรม์เติบโต 5 เท่า และมีการลงทุนเติบโต 7 เท่า และจากภาพรวมดังกล่าวทำให้ธนาคารมีสัดส่วนรายได้จากดิจิทัลในไตรมาสที่ 1/2567 อยู่ที่ 9.9% จากเป้าหมายสิ้นปีนี้อยู่ที่ 13-15% และเป้าหมายปี 2568 อยู่ที่ 25%

สำหรับเป้าหมายพนักงานภายหลังจากนำ AI มาใช้ ธนาคารจะมีหลักสูตรการอบรมให้พนักงาน 3 ระดับ และมีเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้พนักงาน 100% จะเป็นดิจิทัล และภายในสิ้นปี 2568 พนักงานราว 50% จะต้องสามารถนำ AI มาใช้เป็นแล้ว (Practitioner) และภายในปี 2569 พนักงาน 40-50% จะต้องสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยใช้ AI มาตอบโจทย์ลูกค้า

“การนำ AI มาช่วยปล่อยสินเชื่อ ครอบคลุมสินเชื่อเคหะ สินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อ SSME สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ จากเดิมกลุ่มพ่อค้าและแม่ค้าที่เราไม่เอาเลย หลังจากนี้เราจะสามารถรับกลุ่มนี้มากขึ้น ส่วนหนึ้เอ็นพีแอลเราคาดหวังว่าจะช่วยลดได้ และจะเป็น KPI อย่างหนึ่งของเรา แต่เราก็ไม่ทำแบบผลีผลาม เพราะเป็นสิ่งที่เราทดลองความแม่นยำอยู่”

นายกฤษณ์กล่าวว่า ภาพรวมสินเชื่อปีนี้ ธนาคารตั้งเป้าเติบโตไม่สูงอยู่ที่ 1-2% โดยจะเลือกการเติบโตมากขึ้น เนื่องจากธนาคารให้ความสำคัญในเรื่องของความเข้มแข็งของพอร์ตสินเชื่อ ซึ่งหากในกลุ่มธุรกิจรายใหญ่จะเน้นเติบโตใน 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มพลังงานทางเลือก ซึ่งมองว่ายังเติบโตพอไปได้

Advertisment

SCB

ส่วนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จะเลือกกลุ่ม เพราะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง ขณะที่สินเชื่อรายย่อย จะเติบโตในสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในกลุ่มราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับกลุ่มที่ยังเป็นกลุ่มเปราะบางธนาคารยังคงให้ความดูแล จะช่วยผันผ่อนให้ลูกค้าสามารถไปต่อได้ หรือ Soft Landing เพื่อไม่ให้กระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจ

“สินเชื่อคงโต แต่เราคงไม่ได้โตแบบสุดซอย ซึ่งโจทย์เราคือการเติบโตอย่างสมดุล ปัจจุบันเรามีสัดส่วนรายได้ดอกเบี้ย 73% และค่าธรรมเนียม 27% สิ่งที่เราอยากเห็น คือ สัดส่วนค่าฟีเพิ่มขึ้น แม้จะทำได้ยากมาก อย่างไรก็ดี การนำ AI มาใช้เราไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะไม่ลดหรือปลดคน แต่ยืนยันว่าเราให้พนักงานปรับตัว โดยกำไรปีนี้อยู่ที่ 5.3 หมื่นล้านบาท และค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงเหลือ 30-35%”

โดยในไตรมาสแรกของปี 2567 นี้ ธนาคารยังคงมีผลประกอบการที่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในทุกด้าน โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 1.32 หมื่นล้านบาท เติบโต 13.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะเดียวกันยังสามารถรักษาอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (C/I) อยู่ที่ 37.7% มีผลตอบแทนสำหรับผู้ถือหุ้น (ROE) ในระดับ 12.7%