เมื่อเวลา 08.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวก่อนการเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า อิทธิพลจากพายุโพดุลส่งผลกระทบทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำท่วม 26 จังหวัด ภาคตะวันออก 2 จังหวัด ภาคใต้ 3 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 ภาคเหนือ 8 จังหวัด
“ขณะนี้จังหวัดที่ยังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและมีน้ำท่วมขังอยู่ ได้แก่ ภาคเหนือ 4 จังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่น อย่างไรก็ตามสถานการณ์ ณ ขณะนี้ ในช่วงที่พายุลูกใหม่ (คาจิกิ) กำลังพัดเข้ามายังไม่มีผลกระทบเพิ่มขึ้น”
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า สำหรับการเตรียมการของทุกฝ่ายขณะนี้ ได้เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าช่วยเหลือและดูแลประชาชน ในส่วนของการระบายน้ำเมื่อมีพายุลูกใหม่เข้ามาจะให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงการเก็บน้ำไว้ใช้ด้วย คาดว่าพายุลูกใหม่จะเข้าภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือซ้ำอีก ซึ่งเตรียมรับมือทุกพื้นที่ในการระบายน้ำ รวมถึงพื้นที่ที่รับน้ำอยู่เดิม อย่างไรก็ตามการระบายน้ำเร็วหรือช้านั้นขึ้นอยู่กับความสามารถในการระบายน้ำของพื้นที่นั้น
“เตรียมการไว้ คงจะไปดูที่ภาคเหนือ ที่จังหวัดพิษณุโลก เพราะยังมีผลกระทบจากน้ำท่วมอยู่และสุโขทัยที่ตัวเมืองมีขีดความสามารถในการรับน้ำได้ไม่มากนัก ถ้าน้ำไหลเข้าตัวเมืองมากกว่า 550 ลูกบาศก์เมตรจะมีผลต่อสุโขทัย แต่ขณะนี้ยังบริหารจัดการได้” พล.อ.อนุพงษ์กล่าวถึงการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมจังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลกวันที่ 3 ก.ย.
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า สำหรับภาคตะวันออกเฉียงได้เตรียมการไว้แล้ว ถ้ามีเวลาพอนายกรัฐมนตรีอาจจะไปทั้งภาคเหนือและอีสาน
“ผลกระทบของน้ำท่วมทำให้มีพื้นที่นาเสียหายถึง 6 แสนกว่าไร่ ย่อมมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจฐานรากของพี่น้องประชาชน ประมงก็มีผลกระทบส่วนหนึ่ง ซึ่งมาตรการแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง 1.58 หมื่นล้านบาทจะสามารถแก้ปัญหาเร่งด่วนของประชาชนได้”
