กทม.ขอความร่วมมือชาวมุสลิม งดละหมาดวันศุกร์-ที่มัสยิดช่วง “เดือนรอมฎอน” เลี่ยงโควิด-19

เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 63 พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร(กทม.) ครั้งที่ 23/2563

โดยวันนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯมียอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม จำนวน 8 คน ยอดผู้ป่วยสะสมรวมจำนวน 1,311 คน ผู้ป่วยรักษาหายสามารถกลับบ้านได้เพิ่มขึ้น 87 คน ยอดรวมผู้ป่วยรักษาหายฯ จำนวน 1,036 คน ผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา 401 คน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 คน รวมผู้เสียชีวิต 17 คน ทั้งนี้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกทม.ลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของกทม.อย่างต่อเนื่องต่อไป

สำหรับผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคัดกรองโควิด-19 จำนวน 13 ด่าน เมื่อวันที่13 เม.ย. 63 เรียกตรวจรถ จำนวน 6,791 คัน ตรวจคัดกรองบุคคลรวม 13,609 คน พบบุคคลเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงเพิ่ม 2 คน ส่วนผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่านฯ ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. – 13 เม.ย. 63 เรียกตรวจรถรวมทั้งสิ้น 153,357 คัน ตรวจคัดกรองบุคคลรวมทั้งสิ้น 339,301 คน พบบุคคลเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงรวม 66 คน

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ขอให้สำนักงานเขตประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนโดยเฉพาะชาวมุสลิมทราบถึงประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เนื่องจากสัปดาห์น้าจะเข้าสู่ช่วงเดือนรอมฎอนซึ่งจะมีการปฏิบัติศาสนกิจของอิสลามิกชนจำนวนมาก

โดยประกาศดังกล่าวขอให้งดการละหมาดวันศุกร์และการละหมาดญะมาอะห์ที่มัสยิด และให้ละหมาดบ่าย (ดุรี) 4 รอกาอัต ที่บ้านแทน สำหรับผู้บริหารมัสยิดให้จัดการละหมาดเฉพาะกลุ่มที่มีจำนวนไม่เกิน 5 คน และให้มีการเว้นระยะห่างในแถว อย่างน้อย 2 เมตร งดการจัดกิจกรรมและการรวมตัวกันเป็นกลุ่ม

Advertisment

ได้แก่ การจัดงานการกุศลขององค์กรมัสยิด มูลนิธิ สมาคม ชมรม งานบรรยายศาสนธรรมประจำวัน ประจำสัปดาห์ ประจำเดือน การออกดะวะห์ (การเชิญชวนให้ศาสนิกทําความดี) ทั้งในมัสยิดและสถานที่ต่างๆ การเรียนการสอนศาสนา ทั้งการสอนอัลกุรอานและศาสนาภาคบังคับ โดยให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานของตนให้ทบทวนบทเรียนดังกล่าวภายในบ้าน งดหรือเลื่อนการจัดงานฉลองมงคลสมรสไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นหรือเข้าสู่สภาวะปกติ และหรือให้ทำพิธีนิกะฮ์ (สมรส) เฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่เกิน 10 คน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ให้อยู่ในวงจำกัดต่อไป