“แกร็บ” เร่งต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจ อัพสเกลขึ้น “ซูเปอร์แอป”

หลังประกาศควบรวมกิจการกับ “อูเบอร์” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “แกร็บ” (Grab) กลายเป็นแพลตฟอร์มเรียกรถโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในแถบนี้ ด้วยจำนวนการรับส่งผู้โดยสาร 6 ล้านครั้งต่อวัน ครอบคลุม 209 เมือง ใน 8 ประเทศ ยอดดาวโหลดแอปพลิเคชั่นกว่า 96 ล้านครั้ง และขยายบริการอีกหลายอย่าง ทั้งรับส่งอาหารออนดีมานด์ (GrabFood), การขนส่ง (GrabExpress), การชำระเงินแบบไร้เงินสด (GrabPay) และการให้บริการทางการเงิน (GrabFinance) โดยตั้งเป้าจะเป็น “วันสต็อปเซอร์วิสแอปพลิเคชั่น” ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกวันของผู้บริโภคในประเทศไทย เพิ่งเปิดตัว “แกร็บฟู้ด” 

เมื่อปลายปีที่แล้ว พร้อมโปรโมชั่นส่งฟรีในรัศมี 5 กิโลเมตร และอยู่ระหว่างขยายพื้นที่ให้บริการเรียกรถโดยสารในหัวเมือง อาทิ บุรีรัมย์ และหัวหิน ปัจจุบันครอบคลุม 16 จังหวัด

“ธรินทร์ ธนียวัน” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แกร็บฟู้ดกำลังเร่งขยายพันธมิตรร้านอาหารที่ปัจจุบันมีเกือบ 4 พันร้านค้า หลังทดลองให้บริการในกรุงเทพฯตั้งแต่ปีที่แล้ว มียอดสั่งเพิ่มต่อเนื่อง เฉพาะไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มกว่า 4.5 เท่า ทำให้พาร์ตเนอร์ร้านอาหารเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหญ่ และได้ประโยชน์จากโปรโมชั่น และช่องทางการตลาดบนแอป

“แกร็บฟู้ดเป็นก้าวสำคัญในการตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคให้สะดวก และประหยัดเวลาจากรถติดได้ ซึ่งหลังควบรวมธุรกิจกับอูเบอร์อีทส์ ได้เดินหน้าขยายพื้นที่การส่งอาหารให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯ และขยายจำนวนพันธมิตรร้านอาหารเพิ่มเมนูให้หลากหลายมากขึ้น”

และเมื่อ ต.ค.ที่ผ่านมา แกร็บได้ฉลองการให้บริการรับส่งผู้โดยสารในอาเซียนครบ 1 พันล้านครั้ง จึงทำแบบสอบถามเพื่อค้นหาสิ่งที่ผู้บริโภคอยากให้เป็นใน 10 ปี

ข้างหน้า พบว่า ส่วนใหญ่ต้องการให้ “แกร็บ” เป็นแอปพลิเคชั่นที่ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในแอปเดียว บริษัทจึงประกาศวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของเมืองอัจฉริยะ และระบบการให้บริการแบบไร้รอยต่อยกระดับการใช้ชีวิตในทุกวันของผู้บริโภคผ่านเทคโนโลยี

“เมื่อก่อนเราแก้ปัญหาการเดินทาง เรื่องรถติดทำให้ครอบครัวมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น สร้างงานสร้างรายได้ให้กับผู้ขับขี่ ให้ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ทั้งผู้บริโภค ผู้ขับขี่ ผู้ขนส่งสินค้า และผู้ค้า ในอนาคตผู้บริโภคจะผสมผสานรูปแบบการขนส่งตามความต้องการ และงบประมาณได้ ภายใต้การร่วมมือของผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะและเอกชนในแพลตฟอร์มเดียว รวมถึงการชำระเงินผ่านแกร็บเพย์ ให้ทำธุรกรรมแบบไร้รอยต่อได้อย่างปลอดภัย โดยมีแกร็บรีวอร์ดสะสมคะแนนแลกสิทธิประโยชน์ได้”

“ธรินทร์” กล่าวว่า ธุรกิจของแกร็บมี 3 ส่วน คือ 1.การรับส่งผู้โดยสาร (transport solution) 2.การรับส่งสิ่งของ-อาหาร (delivery solution) และ บริการด้านการเงิน (payment/finance solution) เน้นความสะดวกปลอดภัยเข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน และกระจายรายได้สู่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บ

“นอกจากสร้างแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้าแล้ว ยังสร้างระบบนิเวศที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้โดยสารและผู้ขับขี่ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของเขาเติบโต และให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น”

สำหรับบริการด้านการเงินจะไม่ใช่แค่การชำระเงินผ่าน “แกร็บเพย์” แต่มีเป้าหมายเพื่อให้พาร์ตเนอร์ของแกร็บมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น การปล่อยกู้ให้ผู้ขับขี่ และธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ผู้บริโภคหลายล้านคนในอาเซียนที่ยังไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงิน และยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินของธนาคาร

ปัจจุบันมีผู้ประกอบรายย่อย, ผู้ขับขี่, ผู้ขนส่งสินค้า และผู้ค้าเกือบ 6 ล้านรายในอาเซียนทำธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บ ตั้งเป้าจะให้ถึง 100 ล้านรายในปี 2563 ขณะที่พาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่จะได้ประโยชน์จากโซลูชั่นประกันภัยทั้งของยานพาหนะ และส่วนบุคคล

“การให้บริการเดินทางขนส่งจะช่วยให้เราขยายการบริการแกร็บฟู้ดและแกร็บไฟแนนเชียลได้ ในอนาคตจะนำแกร็บเพย์ไปใช้กับบริการเดินทาง และขนส่งอาหาร ซึ่งเป็นสองบริการที่มียอดผู้ใช้มากที่สุดในอาเซียน”