“นินจาแวน” ปักธงโลจิสติกส์ เพิ่มคน 2 เท่า-ผุดคลังสินค้า

“นินจา แวน” ปักธงโลจิสติกส์ปี’64 ลุยลงทุนเพิ่มสปีดบริการขึ้นแท่นตัวช่วย“เอสเอ็มอี” เพิ่ม “คน” 2 เท่าเล็งสร้างคลังสินค้าใหม่รองรับธุรกิจขยายตัว

นายเพียซ เอิง กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท นินจา แวน ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการโลจิสติกส์กล่าวว่าโควิด-19 ทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2563 โตขึ้นจากความนิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์

ทำให้บริษัทมีปริมาณการขนส่งพัสดุในประเทศเพิ่ม 300% จากปี 2562 คาดว่าโลจิสติกส์จะโตตามอีคอมเมิร์ซ ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายและมาตรการกระตุ้นให้เกิดการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล

ข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่า เอสเอ็มอีในไทยมีอยู่ราว 3 ล้านราย คิดเป็น 95% ของธุรกิจทั้งหมด ทำให้แผนธุรกิจปี 2564 ของบริษัทยังมุ่งไปยังการขยายธุรกิจต่อ

โดย 1.ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้พันธมิตร และพัฒนาบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค เช่น มีบริการ Ninja Chat อำนวยความสะดวกในการเช็กสถานะการขนส่ง

Advertisment

ล่าสุดมีนินจา อินไซเดอร์ ฟีเจอร์รายงานข้อมูลเชิงลึก ทำให้ร้านค้ามีข้อมูลโลจิสติกส์และวางแผนต้นทุน สำหรับธุรกิจที่ขนส่งมากกว่า 300 รายการต่อเดือน

“เรายังต้องการเพิ่มผู้จัดการบัญชีดูแลความต้องการแบบครบวงจร วิเคราะห์แนวโน้มเป็นหมวดหมู่เพื่อช่วยให้บริษัทเติบโต”

2.มีแผนสร้างแวร์เฮาส์ใหม่ในไตรมาส 4 และขยายจุดรับพัสดุเพิ่มทั่วประเทศ หลังจาก ม.ค.ได้ย้ายสำนักงานแห่งใหม่ ช่วยให้ทีมขาย ทีมโลจิสติกส์ และฝ่ายบริการลูกค้าทำงานร่วมกันได้คล่องตัวและเพิ่มรถขนส่งแบบรถจักรยานยนต์เพื่อส่งของเร็วขึ้นจากทุก ๆ 100 ชิ้นที่สั่งซื้อ ส่ง 99

ชิ้นได้ในเวลาที่กำหนด และ 3.ลงทุนบุคลากร โดยจ้างในไทยเพิ่ม 2 เท่า จากที่มีกว่า 3,500 คน ใน 6 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม คาดว่าจะทำให้บริษัทโตมากกว่าปีที่ผ่านมา

Advertisment

“จุดเด่นที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ คือ มีเครือข่ายครอบคลุมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการขยายการจัดส่งระหว่างประเทศ เช่น จากไทยไปอินโดนีเซีย จะส่งจากร้านค้าโดยตรง

หรือให้เราหาแหล่งสินค้าที่ต้องการให้ก็ได้ มีเจ้าหน้าที่คอยประสานงานและส่งสินค้าให้ใน 1 สัปดาห์ ช่วย SME ไทยขยายตลาดต่างประเทศได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านภาษา เราจัดการให้ได้ครบวงจร”